"ทวิตเตอร์" ประกาศแต่งตั้ง "อีลอน มัสก์" นั่งบอร์ดบริหาร หลังเข้าถือมากสุด

ความคืบหน้ากรณี อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ทุ่มเงินมูลค่า 2.89 พันล้านดอลลาร์ ซื้อหุ้นของทวิตเตอร์ 9.2% หรือ จำนวน 73,486,938 หุ้น เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของแพลตฟอร์มนี้

 

 

 

ล่าสุดวันนี้ (5 เม.ย.) ปารัก อักราวัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัททวิตเตอร์ อิงค์ของสหรัฐ ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ @paraga ว่า รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ประกาศข่าวว่า ทวิตเตอร์จะแต่งตั้ง อีลอน มัสก์ เป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของบริษัท

 

“จากการพูดคุยกับอีลอนในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่ชัดเจนสำหรับเราว่า เขาจะนำค่านิยมที่ยิ่งใหญ่มาสู่บอร์ดบริหารของเรา” อักราวัล ทวีต

 

โดยซีอีโอทวิตเตอร์ระบุว่า มัสก์ถือเป็นผู้ที่มีศรัทธาแรงกล้าและผู้ที่วิจารณ์ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับบริการของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทต้องการอย่างแท้จริง

 

ขณะที่ “อีลอน มัสก์” ได้ทวีตตอบกลับอักราวัลว่า “เฝ้ารอที่จะได้ทำงานร่วมกับปารักและบอร์ดบริหารทวิตเตอร์ เพื่อสร้างการปรับปรุงครั้งสำคัญให้กับทวิตเตอร์ ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า!” 

 

 

 

สำหรับการประกาศแต่งตั้ง อีลอน มัสก์ นั่งบอร์ดบริหารทวิตเตอร์ มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากทวิตเตอร์แจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ว่า มัสก์ได้เข้าซื้อหุ้นทวิตเตอร์เป็นจำนวน 73.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 9.2% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดที่เป็นบุคคลภายนอกบริษัท

 

ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ ได้วิจารณ์ทวิตเตอร์ที่เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เขามักทวีตข่าวสารและประกาศต่าง ๆ ที่ก่อประเด็นดราม่าอยู่เสมอ โดยได้ทำผลสำรวจความคิดเห็นผู้ติดตามตัวเองว่า “ทวิตเตอร์ปฏิบัติตามหลักการเสรีภาพในการพูดหรือไม่” ซึ่งปรากฏว่า 70.4% ตอบว่า “ไม่” 

 

 

 

นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ยังตั้งโพลถามผู้ติดตามในทวิตเตอร์อีกหัวข้อว่า “คุณต้องการให้มีปุ่มแก้ไขทวีตหรือไม่” และปรากฏว่า 73.4% ตอบว่า “ต้องการ” 

 

 

เอกสารที่ทวิตเตอร์แจ้งต่อตลาดฯ ระบุว่า อีลอน มัสก์ จะดำรงตำแหน่งบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์จนถึงการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีในปี 2567 และเขาได้ให้คำมั่นแล้วว่า จะไม่ถือหุ้นบริษัทเกินกว่า 14.9% ในช่วงเวลาดังกล่าว