4 เมษายน 2565 ความคืบหน้าคดีที่เป็นที่จับตาของสังคมเกี่ยวกับ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรณี นาย น. (นามสมมติ) อดีตไวยาวัจกร ลูกศิษย์คนสนิท “สมเด็จพระวันรัต” อาศัยช่วงอาพาธ ปลอมแปลงเอกสาร โยกทรัพย์สินกว่า 200 ล้านบาท ไปเป็นการส่วนตัว กระทั่งตำรวจได้ติดตามจับกุมได้เมื่อวันที่ 23 มี.ค.65 พร้อมเร่งสืบทรัพย์กลับคืนมา
ล่าสุดมีการระบุออกมาแล้วว่า สำหรับ นาย น. (นามสมมติ) เป็นอดีตเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ กองโครงการธุรกิจ 2 ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถือเป็นบุคคลที่ในแวดวงทั้งภายในวัดและนอกวัดต่างรู้กันดีว่า ถ้าใครต้องการจะติดต่อกับทาง สมเด็จพระวันรัต จะต้องผ่าน นาย น. คนเดียวเท่านั้น
หลังจากชุดสืบสวนได้เข้าจับกุมตัว นาย น. และได้ทำการสอบปากคำโดยเบื้องต้น นาย น. ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างกับชุดสืบสวนว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ สมเด็จพระวันรัต มอบให้ใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ได้ฉ้อโกงมาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่ทางวัดมอบให้กับตำรวจชัดเจนว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเพราะเป็นเงินที่ถูกโอนจากบัญชีวัดมาเข้าบัญชีส่วนตัว ในเบื้องต้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย ฉ้อโกง, ลักทรัพย์, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และ ฟอกเงิน
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนกองปราบฯ กำลังสอบสวนขยายผลเกี่ยวกับทรัพย์ของนายเนย ร่วมกับ ป.ป.ง. เพื่อนำทรัพย์สินมาคืนวัดต่อไป
เว็บไซต์ ฐานเศรษฐกิจ ได้รายงานการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของ นาย น. อดีตไวยาวัจกรวัดบวรนิเวศวิหาร จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผ่าน Creden Data พบว่า นาย น. ได้นั่งเป็นกรรมการบริษัท ตรีมิตรค้ำจุน จำกัด และถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ อีกหลายบริษัท มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
บริษัท ตรีมิตรค้ำจุน จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 30/18 ซอยพุทธมณฑล สาย 3 ซอย 18/4 ศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ราชื่อกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น
งบการเงิน นำส่งปี 2563
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบการถือหุ้นของ นาย น. พบว่า เข้าไปถือหุ้นจำนวน 3 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหุ้นทั้งหมด 374,610 บาท ดังนี้
1. บริษัท ตรีมิตรค้ำจุน จำกัด
2. บริษัท มาร์เวลลัส เฮลท์ 595 จำกัด
3. บริษัท สโตนเฮด กรุ๊ป จำกัด
ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ