svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ทนายวันชัย โพสต์แนะทักษิณ บริจาคเงินช่วยประเทศแทนส่งอุ๊งอิ๊งลงการเมือง

31 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทนายวันชัย" โพสต์แนะ "ทักษิณ" บริจาคเงินช่วยประเทศแทนส่งลูกสาว "อุ๊งอิ๊ง" ลงเล่นการเมือง ยกตัวอย่าง "พิมรี่พาย" ทำแค่นิดเดียวยังดังระเบิดระเบ้อได้

เป็นประเด็นให้ชาวโซเชียลและคอการเมืองได้ฮือฮาทุกครั้ง สำหรับการออกมาพูดใน ClubHouse ร่วมกับกลุ่ม CARE ของพี่โทนี่ วู้ดซัม หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้พูดถึงประเด็นที่ ลูกสาวอย่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ที่เปิดตัวเข้าสู่ถนนการเมือง ในฐานะประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และล่าสุดในฐานะหัวหน้าครอบครัวพรรค (อ่านข่าว) 

 

ซึ่งกรณีดังกล่าว วันนี้ (31 มี.ค.) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทนายวันชัย สอนศิริ แสดงความเห็นว่า 

 

“เกมแห่งอำนาจของครอบครัว” 

 

นับแต่นี้ระหว่างที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสภาก็ใกล้จะเปิดสมัยประชุม การเมืองทั้งสนามเล็กและสนามใหญ่ก็จะเร่าร้อนขึ้นโดยลำดับ แต่ละคนแต่ละพรรคก็จะแสดงบทบาทกันอย่างเต็มที่

 

นักการเมืองบางคนที่ทั้งปีทั้งชาติไม่ได้มีบทบาทอะไรเลย จะรวมหัวกันขึ้นมาแสดงแต่ละช่วงแต่ละจังหวะ แม้แต่มวยเก่าม้าแก่ที่หมดเสียงหมดแรงก็ยังออกมาแสดงกับเขาด้วย ทั้ง ๆ บทที่แสดงออกมานั้นเขาเรียกว่านักเลงโบราณ ควรจะเลิกไปได้แล้วในยุคสมัยดิจิทัล แต่ก็ไม่รู้ตัว ยังหลงเงาตัวเอง 

 

 

โพสต์ของนายวันชัย สอนศิริ

ลองเทียบชั้นกันดูระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” กับนักเลงโบราณ มันห่างกันกี่ยุคสมัย หรือจะเกาะชายกระโปรงเด็กเพื่อจะขอเกิดอีกสักครั้ง

 

สิ่งหนึ่งที่เห็นในช่วงนี้ นักการเมืองมักจะท่องคาถาว่าตนมาจากการเลือกตั้งมาจากประชาชน แล้วก็กล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นเผด็จการมาจากรัฐประหาร อีกฝ่ายที่เป็นเผด็จการก็ท่องคาถาว่ามาเพื่อความสงบเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนแล้วก็โจมตีอีกฝ่ายว่าเอาการเมืองมาทำมาหากิน ข้อกล่าวหาและข้อโจมตีนี้จะมีขึ้นและดังขึ้นโดยลำดับ จนกระทั่งถึงวันเลือกตั้งในเดือนมีนาคมโน่น วงจรอุบาทว์ของการกล่าวหาและโต้แย้งจะเป็นเช่นนี้ตลอดไประหว่างนักเลือกตั้งกับนักเผด็จการ

 

ซึ่งต้องยอมรับว่าทั้งนักเลือกตั้งและนักเผด็จการ ที่ผ่านมามีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งระหว่างกัน ถ้าสองส่วนนี้หาความพอดีกันให้ได้ เชื่อว่าจะเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็งได้และเผด็จการก็จะหมดไป แต่การเมืองที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ พอมีอำนาจแล้วหลงระเริงจนทำให้การเมืองผิดเพี้ยนไป และแต่ละฝ่ายก็ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวตัวเองกันบ้าง ต่างแต่กล่าวหากันไปมา
 

 

นายทักษิณ - น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

“ความจริง คุณทักษิณและครอบครัว ถ้าหวังจะช่วยประเทศไทย จะช่วยเหลือประชาชนคนไทย ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจ ไม่ต้องให้ครอบครัวมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ ถ้าใจบริสุทธิ์ มีเงินทรัพย์สินเหลือเฟือดังที่พูด ก็สร้างความยิ่งใหญ่ได้โดยบริจาคเงินทองทรัพย์สิน สร้างสาธารณประโยชน์ให้กับประเทศไทยให้กับคนไทยได้ทุกจังหวัดที่ยังลำบากยากจนกันอยู่เยอะแยะ ลองสร้างโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ให้ทุกจังหวัดหรือจะทุกอำเภอก็ได้ แค่นี้คนก็นับถือกันทั้งประเทศแล้ว เป็นเทพของคนไทยแล้ว”

 

พิมรี่พาย ทำแค่นิดเดียวยังดังระเบิดระเบ้อ แล้วนี่ทำมาก ทำใหญ่ ทำทั่ว คนจะไม่คารวะได้อย่างไร ไม่ต้องเล่นการเมืองก็ได้ ก็ใหญ่ในหัวใจของคนไทยแล้ว แต่ที่ไม่ทำเพราะอยากใหญ่อยากโต อยากได้อำนาจมากกว่าอยากให้ ความยิ่งใหญ่ของมนุษย์บนโลกใบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวใครใด ๆ ทั้งสิ้น

 

มีคนบนโลกใบนี้ที่มีคนนับถือเป็นพัน ๆ ปีโดยที่เขาไม่ได้เล่นการเมือง ไอ้ที่พูด ๆ กันสารพัดนั่นก็เพราะอยากได้อำนาจ ทุกอย่างในชีวิต ทรัพย์สินเงินทองมีท่วมหัวแล้ว แต่ที่ยังไม่มีทุกวันนี้ก็คืออำนาจ เกมกีฬาที่สนุกและลุ้นมันส์มากของมหาเศรษฐีพวกนี้ก็คือเกมแห่งอำนาจ เมื่อชนะแล้วใช้อำนาจเป็น ก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ถ้าใช้ไม่เป็น หาประโยชน์เข้าตัวก็หายนะ… แผ่นดินก็ไม่มีอยู่… 

 

 

นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกฯ

logoline