เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 นายสมคิด ปัญญาดี ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บางพื้นที่ค่า PM2.5 เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ วันที่ 28 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่สถานีวัดคุณภาพอากาศต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ วัดค่า PM2.5 ได้ 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , สถานีวัดคุณภาพอากาศ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่วัดค่า PM2.5 ได้ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, สถานีวัดคุณภาพอากาศต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วัดค่า PM2.5 ได้ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เนื่องจากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดไฟป่าในหลายพื้นที่ เช่น ที่อ.เชียงดาว อ.สันทราย อ.สะเมิง ซึ่งได้ระดมกำลังเข้าไปช่วยดับไฟกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด คือพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ พื้นที่ดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะที่อ.เชียงดาวซึ่งทางยูเนสโก้ ได้ประกาศให้ดอยหลวงเชียงดาว เป็นพื้นที่ชีวมณฑลเมื่อปี 2564 จึงเป็นพื้นที่สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้าไปในพื้นที่ดอยหลวง ด้วยการจัดชุดเสือไฟของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป่าและพันธุ์พืช เข้าประจำการที่ อ.เชียงดาว จำนวน 7 ชุด ชุดละประมาณ 15 คน เพื่อเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างเข้มงวด
ขณะที่ในพื้นที่ดอยสุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้จัดชุดเสือไฟเข้าประจำการ 15 ชุด ชุดละประมาณ 15 คน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งนี้ชุดเสือไฟที่ประจำการที่ดอยสุเทพ สามารถที่จะโยกย้ายเข้าไปสนับสนุนช่วยในพื้นที่อื่นที่เกิดไฟป่าได้ทันทีที่ได้รับการร้องขอ การที่ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ในพื้นที่ ดอยหลวง อ.เชียงดาว และ ดอยสุเทพ อ.เมือง เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ที่ไม่มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายสูง เป็นพื้นที่ป่าสูงชัน ต้องใช้วิธีการลาดตระเวนเฝ้าระวัง หากเกิดไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้พืชพันธุ์บางชนิดที่หายากได้รับความเสียหายไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อไปได้
โดยทั้ง 2 พื้นที่นี้ได้ใช้มาตรการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟเข้าประจำการในพื้นป่าตลอด 24ชั่วโมง โดยสลับสับเปลี่ยนกันชุดละ 2-3 วัน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการลักลอบเข้าไปจุดไฟในพื้นที่ทั้ง 2 จุดนี้ ขณะเดียวกันยังจัดชุดลานตระเวนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ซึ่งการใช้มาตรการดังกล่าว อาจจะทำให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีเกิดความเกรงกลัวและไม่กล้าเข้าจุดไฟ แต่อย่างไรก็ตามยังมีความพยายามที่เข้าไปลักลอบจุดไฟ สาเหตุมองได้ 2 ประเด็นคือ การกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ และ หาของป่าในพื้นที่
สำหรับในพื้นที่อื่น จากการพิจารณาทิศทางลมในช่วงนี้ ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ อ.สะเมิง และ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าที่อยู่ติดกับ อ.เมือง ซึ่งมีลมจากทางทิศตะวันตกพัดเข้าสู่ อ.เมือง หากเกิดไฟในพื้นที่ดังกล่าว ลมจะพัดพากลุ่มหมอกควันเข้าสู่ อ.เมือง ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในเมืองเชียงใหม่พุ่งสูงขึ้นได้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำหมู่บ้านคอยเฝ้าระวังลาดตระเวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่