สถานีโทรทัศน์ของทางการจีน รายงานว่า ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำขังในหลุม ที่เกิดจากแรงกระแทกของเครื่องบินโดยสาร ที่ตกบนภูเขาท่ามกลางป่าไม้หนาทึบในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และพยากรณ์อากาศเตือนว่า อาจมีฝนตกต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ทำให้เสี่ยงเกิดดินถล่ม น้ำท่วม และลมกระโชกแรงบนภูเขา ภารกิจค้นหากู้ภัยในวันนี้จึงต้องระงับไว้ชั่วคราว
ก่อนหน้านั้นสำนักงานการบินพลเรือนของจีนหรือ CAAC แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อคืนวันอังคารว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตและยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารรวม 132 คนเมื่อวันจันทร์ แต่มีรายงานว่าศูนย์ควบคุมการบินเรียกไปยังเครื่องบินหลายครั้งระหว่างเครื่องดิ่งลง แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ สรุปว่า เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินไชนาอีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ได้รับความเสียหายร้ายแรงมาก ทำให้การสืบหาสาเหตุของเครื่องบินตกยากลำบาก และในเบื้องต้นนี้ยังไม่อาจระบุสาเหตุได้ รวมทั้งยังไม่พบกล่องดำ 2 ใบ ที่จะช่วยไขคำตอบเรื่องนี้ และเจ้าหน้าที่บอกด้วยว่า ไม่สามารถระบุตำแหน่งกล่องดำจากสัญญาณปิงจากกล่องดำได้ เพราะระบบจะทำงานเฉพาะเมื่อกล่องดำจมอยู่ใต้น้ำ
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้สถิติการบินอย่างปลอดภัยของการบินพลเรือนของจีนต้องหยุดที่จำนวน 4,227 วัน ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดของโลก และเที่ยวบินเกือบ 70% จาก 11,800 เที่ยวเมื่อวันอังคารต้องถูกยกเลิก
ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนเริ่มดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางการบิน โดยมีคำสั่งให้สายการบินต่าง ๆ ตรวจสอบความปลอดภัยของสายการบินทันทีในระยะเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงอันตราย และป้องกันให้เกิดความปลอดภัยแก่การเดินอากาศและชีวิตประชาชน
ด้านไชนา อีสเทิร์น ปฏิเสธช่าวลือในโลกออนไลน์ว่า อุบัติเหตุอาจเกิดจากความพยายามของสายการบินเพื่อลดค่าใช้จ่ายเรื่องการซ่อมแซมและบำรุงรักษา และจากรายงานทางการเงินของสายการบิน ระบุว่า มีค่าใช้จ่ายเรื่องการซ่อมบำรุงในปี 2564 เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2562