สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ใช้กลไกฉุกเฉินทันทีเพื่อรับมือกับสถานการณ์เครื่องบินโดยสารของสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกบนภูเขาในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงในวันนี้ และทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหลายเพื่อค้นหาและกู้ภัย
คณะรัฐมนตรีจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบหาสาเหตุของเครื่องบินโดยสารตกโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้ และเพิ่มการสอบสวนเรื่องความเสี่ยงอันตรายของภาคการบินพลเรือนเพื่อให้มั่นใจว่าการบินจะดำเนินงานด้วยความปลอดภัยสูงสุดและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในอนาคต
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังทั้งหลายเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ และเน้นย้ำให้ความมั่นใจและความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้ประสบเหตุด้วย เขายังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ
เครื่องบินที่บรรทุกผู้โดยสาร 123 คนและลูกเรือ 9 คนออกจากสนามบินคุนหมิง ฉางสุ่ย ในมณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้เพื่อมุ่งหน้าไปเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้
ข้อมูลจาก Flightradar24 ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ลดเพดานบินอย่างรวดเร็วจากระดับ 29,100 ฟุตเมื่อเวลา 6.20 น. ตามเวลามาตรฐานสากลเหลือเพียง 9,075 ฟุตในเวลาเพียง 2 นาที 15 วินาทีต่อมา หลังจากนั้นผ่านไปอีก 20 วินาที ตำแหน่งสุดท้ายของเครื่องบินอยู่ที่ระดับ 3,225 ฟุต
ส่วนรายงานสภาพอากาศในขณะเกิดเหตุมีเมฆปกคลุมแต่ยังคงมีทัศนวิสัยที่ดีในเมืองอู๋โจวในช่วงเวลาเกิดเหตุ
เครื่องบินลำที่ประสบเหตุเป็นรุ่น โบอิ้ง 737-800 รุ่นนี้มีประวติเรื่องความปลอดภัย และเป็นรุ่นที่ผลิตก่อนรุ่น 737 MAX ที่ถูกห้ามบินในจีนนานกว่า 3 ปี หลังจากเครื่องบินรุ่นนี้ประสบเหตุตกในอินโดนีเซียเมื่อปี 2561 และในเอธิโอเปียเมื่อปี 2562
ไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส มีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 รวม 109 ลำ และรุ่น 737-700 ที่มีขนาดเล็กกว่าอีก 40 ลำ
ล่าสุดไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ประกาศห้ามเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทุกลำขึ้นบินเริ่มตั้งแต่วันอังคารนี้