svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน

22 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทนายเดชา-แม่แตงโม นัดสื่อแถลงแต่ถึงเวลาแม่โฟนอินแทน ย้ำดีเอสไอไม่ควรรับทำคดี ตร.เดินหน้าไปมากแล้ว ย้ำ ส.ส.เต้ ไม่ใช่ของจริง ระบุ ดื่มไวน์-แผลใหญ่ ไม่น่าว่ายน้ำได้นาน ทวงสัญญา ปอ-โรเบิร์ต สึกแล้วจะสารภาพ วอนสังคมอดใจรออย่ามโน ให้รอตร.แถลง

นาง พนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของดาราสาว "แตงโม นิดา" ซึ่งตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 จังหวัดนนทบุรี และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ นัดหมายสื่อมวลชนแถลงเกี่ยวกับเรื่องคดีการเสียชีวิตของ“แตงโม” ที่สำนักงานทนายย่านรามอินทรา แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายทนายได้แจ้งว่าคุณแม่ไม่ได้เดินทางมาด้วยแต่จะเป็นการโฟนอินทางโทรศัพท์เข้ามาตอบคำถามและแถลงสิ่งที่คุณแม่ต้องการสื่อสารเท่านั้น

แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน

โดยนางพนิดา มารดาดาราสาว ได้แถลงว่า กรณีที่มีบุคคลจำนวนมากเดินทางไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมในคดีของลูกสาวตนเองกับหลายหน่วยงาน อาทิ กรณีของ นางสาวรสนา โตสิตระกูลและพวก ที่เดินทางไปร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอรับคดีการเสียชีวิตของแตงโมเป็นคดีพิเศษ  เรื่องดังกล่าวคุณแม่ไม่สบายใจและไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวเพราะมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่แล้ว 

 

“เมื่อได้ไปติดตามความคืบหน้าของคดี พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมากแล้วและไม่เห็นด้วยกับที่กล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานไม่เป็นกลางไม่โปร่งใส มองว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ควรรับเรื่องดังกล่าว ร้องขอความเป็นธรรมในหลายพื้นที่ไม่คิดว่าคนเหล่านี้้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากแตงโม แต่ไม่อยากให้เข้ามายุ่งกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้หากมีพยานหลักฐานใหม่ก็จะไม่รับแต่หากต้องการจะมอบพยานหลักฐานเหล่านั้นจริงและหวังดีกับลูกสาวขอให้นำมามอบให้กับทนายเดชายืนยันว่าจะยังไม่ฟ้องร้องบุคคลต่างๆเหล่านี้”

 

ส่วนกรณีของนายมงคลกิตติ์ ที่วันนี้ออกมาแถลงข่าววาดภาพจุดที่แตงโมตกจากเรือและมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าแตงโมว่ายน้ำมาขอความช่วยเหลือเป็นเวลานานกว่า 30 นาที เรื่องนี้คุณแม่มองว่าถ้าเป็นเรื่องจริงก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจแต่เชื่อว่าเรื่องที่นายมงคลกิตติ์นำมาแถลงไม่ใช่เรื่องจริงเพราะแตงโมดื่มไวน์ไปในปริมาณมากน่าจะมีอาการเมา อีกทั้งยังมีแผลขนาดใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะว่ายน้ำไปขอความช่วยเหลือได้นานขนาดนั้น

แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน

“เคยได้พูดคุยกับนายมงคลกิตติ์แล้วเรื่องการหาพยานหลักฐานใหม่มาให้ แต่มองว่าตอนนี้หมดเวลาของคดีนี้แล้วและไม่อยากให้ขุดคุ้ยเรื่องต่างๆขึ้นมาอีกส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าเต้ต้องการหาแสงหรือไม่ ตนเองก็ไม่อยากให้มองแบบนั้น”

 

ส่วนเรื่องการนำผู้ต้องหาทั้งสองคนและบุคคลที่อยู่บนเรืออีก 3 คนเข้าเครื่องจับเท็จนั้นมองว่า อยากให้นำทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จเพราะต้องการให้สารภาพความจริงที่เกิดขึ้นแต่ถ้าหากไม่ยอมเข้าเครื่องจับเท็จก็อยากจะให้สารภาพเพราะมองว่ามี 3 คนที่อยู่บนเรือปิดปากไม่ยอมพูดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ นอกจากนี้ยังทวงสัญญากับปอและโรเบิร์ตที่เคยบอกไว้ก่อนบวชโยคีว่าหากสึกออกมาแล้วจะสารภาพทุกอย่างบนเองจะรอดูว่าทั้งสองคนจะเป็นสุภาพบุรุษพอหรือไม่

แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน

ฃ“ยังยืนยันว่าไม่เคยได้รับเงินจากปอหรือ โรเบิร์ต เลยแม้แต่บาทเดียวส่วนที่เคยพูดว่าอยากได้เงินมากหรืออยากได้ 30 ล้าน เป็นเรื่องที่พูดเล่นมองว่ากว่าจะได้เงินเยียวยามาต้องใช้เวลาอีกนานและอีกหลายขั้นตอนในกระบวนการชั้นศาล”

ทั้งนี้ยังได้ขอบคุณสื่อมวลชนและตำรวจที่ช่วยกันทำคดีและอยากให้สังคมอดใจรอไม่อยากให้มโนกันไปเองและขอให้ใจเย็นๆหากการแถลงของตำรวจเกิดขึ้นและตำรวจไม่สามารถชี้แจงได้หรือเกิดความไม่พอใจก็ค่อยว่ากัน ไปตามพยานหลักฐานที่เห็นเชื่อว่าตำรวจจับชี้แจงได้ ดังนั้นถึงไม่อยากให้หน่วยงานอื่นๆเข้ามายุ่งในเวลานี้

 

ด้านทนายเดชาชี้แจงว่า การยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอรับคดีของแตงโมไปเป็นคดีพิเศษนั้นตามหลักแล้วจะต้องยื่นโดยผู้เสียหายซึ่งจากประสบการณ์ที่เคยทำคดีที่เกี่ยวข้องกับ DSI ไม่เคยพบว่าบุคคลอื่นจะไปยื่นแทนได้ และอยากให้ทาง DSI เข้าใจว่าผู้เสียหายไม่ประสงค์ที่จะให้เป็นคดีพิเศษก็ไม่มีสิทธิ์ทิที่ DSI จากรับคดีแต่หากทางกรมมีความสามารถหรือต้องการจะช่วยตำรวจทำงานขอให้ติดต่อมาที่ตนเองโดยตรงก็พร้อมรับความช่วยเหลือ โดยหลังจากนี้ต้องทำหนังสือถึงดีเอสไอ ว่าผู้เสียหายไม่ประสงค์จะเข้าเป็นคดีพิเศษหรือติดใจในประเด็นต้องสงสัยต่างๆที่มีคนมาร้อง

แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน

สำหรับเรื่องเครื่องจับเท็จทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้ทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการว่าการนำผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาเข้าเครื่องจับเท็จการสืบสวนสอบสวนการชันสูตรและการตรวจพยานหลักฐานต้องเสร็จสิ้นก่อน ผู้เข้ารับการจับเท็จร่างกายจิตใจต้องปกติไม่มีโรคประจำตัวหรือตั้งครรภ์  และข้อมูลที่ได้จากการจับเท็จจะประกอบในการสืบสวนสอบสวนเท่านั้นไม่ได้ประกอบลงในสำนวนคดี ซึ่งหากคุณแม่ของแตงโมประสงค์ให้ทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จก็จะแจ้งให้ชุดสืบสวนสอบสวนทราบอีกครั้ง

แม่“แตงโม”ไม่โอนคดี“ดีเอสไอ” วอนสังคมอย่ามโน

 

logoline