'จิ้งโกร่ง' แมลงเศรษฐกิจทำรายได้ปีละ 6 แสน!

อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายอดิศร ตากิ่มนอก อายุ 41 ปี ซึ่งเป็น Young Smart Farmer ในจังหวัดตรัง ได้ใช้พื้นที่โรงเก็บยางแผ่นดิบขนาดใหญ่บริเวณหลังบ้านที่ตนเองและครอบครัวเลิกกิจการไปเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา หลังจากขาดทุนยับจากสถานการณ์ราคายางพาราที่ตกต่ำในขณะนั้น ทำให้ต้องปรับพื้นที่ทำเป็นบ่อจากซีเมนต์บอร์ดเปลี่ยนอาชีพหันมาเลี้ยงจิ้งโกร่ง แมลงเศรษฐกิจชนิดใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคใต้ไม่นิยมเลี้ยง เพราะคนไม่นิยมรับประทาน โดยทำมาประมาณ 6 ปี แต่ต้องหยุดจากสถานการณ์โควิดไป 2 ครั้ง เสียหายหลายแสนบาท แต่ขณะนี้กลับมาเลี้ยงใหม่มีจำนวน 8 บ่อ ปรากฏว่าเสียงตอบรับดีมาก และของตนเองไม่พอตลาดต้องการ จึงอยู่ระหว่างกำลังจัดเตรียมขยายบ่อเลี้ยงเพิ่มให้เต็มพื้นที่อีกจำนวน 40 บ่อ ขณะเดียวกันได้ส่งเสริมความรู้ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดตรัง พร้อมจำหน่ายพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ที่ผ่านการทดลอง ทดสอบสายพันธุ์แล้วให้แก่ลูกฟาร์มในราคาบ่อละ 300 -500 บาท เพื่อลูกฟาร์มนำไปขยายพันธุ์ โดยรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนรายใหญ่รายเดียวใน จ.ตรัง ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วจังหวัดตรังรวมประมาณ 40 ราย ทำให้มีสามารถรวบรวมผลผลิตจิ้งโกร่งป้อนตลาดได้เดือนละประมาณ 1 ตัน สามารถสร้างรายได้ให้เดือนละ 50,000 บาท พลิกชีวิตชาวสวนยาง โดยตลาดสำคัญอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือ ขณะที่ความต้องการยังมีสูงมาก และใช้พื้นที่โรงรีดยางพาราแผ่นดิบ มาเลี้ยงด้วงสาคูด้วยประมาณ 200 – 300 กะละมัง

นายอดิศร ตากิ่มนอก เกษตรกร กล่าวว่า ตนประสบปัญหาขาดทุนจากการทำกิจการผลิตยางแผ่นดิบ เพราะยางพารามีราคาตกต่ำ จึงเปลี่ยนอาชีพมาได้ประมาณ 6 ปี แต่ต้องหยุดจากสถานการณ์โควิดไป 2 ครั้ง เสียหายหลายแสนบาท แต่ขณะนี้กลับมาทำใหม่ เริ่มจากซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จิ้งโกร่งมาจำนวน 1 ขัน ในราคา 1,000 บาท มาเลี้ยงในบ่อ 1 บ่อ จนกระทั่งสามารถขยายพันธุ์ได้ และแจกจ่ายให้แก่สมาชิกที่มีอยู่ทั่วจ.ตรังประมาณ 40 ราย รวมทั้งหมดประมาณ 500 บ่อ หมุนเวียนจับ โดยจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยตนรับซื้อผลผลิตคืนจากสมาชิกในราคากิโลกรัมละ 120 บาท แต่ละเดือนรวบรวมผลผลิตได้ประมาณ 1 ตัน จากนั้นนำมาทำเป็นจิ้งโกร่งแช่แข็ง ส่งไปขายในตลาดภาคกลางและภาคเหนือ ในราคาส่งกิโลกรัมละ 150 บาท ส่วนราคาปลีกกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งตลาดจะแย่งกันซื้อ เพราะความต้องการสูงมาก ทั้งนี้ การเลี้ยงจิ้งโกร่งใช้เวลาประมาณ 65-75 วัน ก็สามารถจับขายได้ โดยใช้อาหาร สำหรับการเลี้ยงจิ้งโกร่ง ซึ่งขณะนี้ราคาแพงขึ้น เพราะเป็นอาหารสัตว์กระสอบละ 545 บาท แต่จะลดรายจ่ายโดยการให้กินใบมันสัปปะหลัง ซึ่งปลูกเอาไว้กว่า 1 ไร่ ทั้งพื้นที่ว่างข้างบ้าน และแปลงใหญ่ เพราะมีโปรตีนที่สำคัญมากเท่ากับอาหาร ส่วนด้วงสาคูตลาดอยู่ในภาคใต้ จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ ขณะนี้มีประมาณ 200 – 300 กะละมัง มีผลผลิต่อสัปดาห์ประมาณ 30 กก.ๆละ 150 บาท หรือเดือนละประมาณ 18,000 บาท วิธีการเลี้ยงของตนเองทั้งด้วงสาคู และจิ้งโกร่งจะวางแผนเลี้ยงเป็นล๊อต เช่น ถ้ามี 80 บ่อ ก็จะแบ่งการเลี้ยงเป็นครึ่งๆ เพื่อจะได้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ซึ่งทั้งจิ้งโกร่งและด้วงสาคู เป็นสัตว์ปลอดสารพิษ 100% ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้โทรศัพท์ 083-3913652 โดยขณะนี้ยังต้องการลูกฟาร์มหรือสมาชิกอีกจำนวนมาก สำหรับจิ้งโกร่ง และด้วงสาคู สามารถทำอาหารเมนูหลายอย่าง