ชาวยูเครนมากกว่า 1,300 คน รวมทั้งผู้หญิงกับเด็กทารก ยังคงติดอยู่ใต้ซากโรงละครในเมืองมาริอูโปลของยูเครนที่ถูกถล่ม ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประกาศเมื่อคืนที่ผ่านมาว่าภารกิจกู้ภัยจะยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่ ผู้ที่ติดอยู่ภายในต้องรอคอยความช่วยเหลืออยู่ที่ชั้นใต้ดินเป็นคืนที่ 3 แล้ว ทางการท้องถิ่นระบุว่าพบผู้รอดชีวิตมากกว่า 130 คนแล้ว แต่พวกเขาเป็นเพียง 1 ใน 10 ของคนที่ยังติดอยู่ในอาคาร ที่ถูกใช้เป็นที่หลบภัยสงคราม ก่อนถูกทหารรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่ม และการช่วยเหลือก็เผชิญอุปสรรคจากกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ลุดมิลา เดนิโซวา กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนของยูเครน ระบุว่าจากข้อมูลที่ได้รับล่าสุดยังคงมีคนติดอยู่ชั้นใต้ดินของอาคารมากกว่า 1,300 คน เพื่อหลบระเบิด และหวังว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการคนอื่นเกรงว่าผู้รอดชีวิตอาจจะตายได้ เพราะหน่วยฉุกเฉินของเมืองก็ถูกทหารรัสเซียทำลายไปแล้วเช่นกัน ผู้หญิงที่รอดชีวิตคนหนึ่งบอกว่าการโจมตีเกิดขึ้นในขณะที่ทุกคนกำลังหุงหาอาหาร และมีเพียง 100 คน ที่มีเวลาหลบหนี
ทางการยูเครนในกรุงเคียฟต่างแสดงความหวังว่า คนส่วนใหญ่ในโรงละครจะรอดชีวิต แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการกระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด