เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
วันนี้(18 มี.ค) เวลา 09.00 น. ที่ฟาร์มเลี้ยงจระเข้ หลังบ้านเลขที่ 257 หมู่ที่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงจระเข้รายใหญ่ที่สุดในจ.ตรัง ซึ่งเป็นของนายสมมาตร ศรีสุข อายุ 55 ปี ใช้พื้นที่สวนยางพาราเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ทำบ่อเลี้ยงจระเข้น้ำจืดจำนวน 450 ตัว เพื่อส่งขายให้กับบริษัทผู้ขายลูกจระเข้และรับซื้อคืนรายใหญ่ในจ.ชลบุรี ซึ่งเกษตรกรเริ่มเลี้ยงจระเข้เมื่อปี 2550 จำนวน 88 ตัว เมื่อกิจการดีขึ้น จระเข้ขายได้ราคาดีตัวละเกือบ 10,000 บาท เกษตรกรจึงขยายบ่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น
จนถึงปัจจุบันมีจระเข้อยู่จำนวน 450 ตัว แต่ 2 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาโควิด-19 ระบาด ทำให้บริษัทคู่สัญญา ชะลอการรับซื้อหรือมารับซื้อเพียงบางส่วน เนื่องจากไม่สามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าอาหาร ค่าน้ำ และค่าดูแลเองทั้งหมด
จากเดิมที่เคยเลี้ยงครบ 3 ปีจระเข้จะมีรอบอกประมาณ 55 เซนติเมตรขึ้นไป ราคาจะอยู่ที่ตัวละ 8,000-10,000 บาท แต่หลังบริษัทไม่มารับซื้อ ทำให้จระเข้ที่มีอายุตั้งแต่ 3-5 ปี มีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งขณะนี้มีประมาณ 200 ตัว จึงประกาศเปิดขายจระเข้ยกตัวหน้าฟาร์ม ในราคาที่ต่ำกว่าทุนหรือตัวละประมาณ 3,500--6,000 บาทแล้วแต่ขนาด ซึ่งบริษัทคู่สัญญาก็เห็นด้วย เพราะนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรแล้ว ยังช่วยแบ่งเบาภาระของบริษัทฯ ได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะที่รับซื้อไปจากเกษตรกรรายอื่นทั่วประเทศก็ยังนำไปสต๊อกไว้ ไม่สามารถส่งออกได้
ส่วนใครสนใจจะรับซื้อจระเข้ไปเลี้ยงดูหรือนำไปทำเป็นเมนูอาหารต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ฟาร์มเลี้ยงจระเข้ หมู่ 6 ต.บ้านโพธิ์ หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-7956914
นายสมมาตร กล่าวว่า เริ่มเลี้ยงจระเข้มาตั้งแต่ปี 50 จนปัจจุบันรวม 15 ปีแล้ว โดยเริ่มเลี้ยงครั้งแรกจำนวน 88 ตัวและเริ่มขยายจนถึงวันนี้ประมาณ 450 ตัว ถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดในจ.ตรัง ซึ่งตอนนี้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้ในตรังจำนวน 22 ราย ตอนซื้อมาขนาดตั้งแต่ 30 เซนติเมตรถึง 1 เมตรเศษ ตอนนี้มีพร้อมขายอยู่ประมาณ 100-200 ตัว หากใครสนใจติดต่อได้จะซื้อขายแบบไหน
ภาพ/ข่าว : ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม สำนักข่าวเนชั่น จ.ตรัง