svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ศิริราช เผยผลวิจัย "ฟาวิพิราเวียร์" ช่วยผู้ป่วยโควิดอาการดีขึ้นสูงถึง 79%

17 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช เปิดผลการวิจัย ยาฟาวิพิราเวียร์ พร้อมแนะนำการใช้ที่เหมาะสม เผยช่วยรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ดีขึ้นสูงถึง 79% แนะหลีกเลี่ยงใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ช่วง 3 เดือนแรก

17 มีนาคม 2565 ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช เผยผลการศึกษาวิจัยการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อย หรือปานกลาง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Siriraj Institute of Clinical Research” ระบุว่า หากใช้ยาอย่างเหมาะสม สามารถช่วยผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้ถึง 79 % มีเนื้อหาดังนี้

 

ช่วงนี้โควิดระบาดหนักมาก จำนวนยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช จึงขอนำผลการศึกษาวิจัยการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยหรือปานกลางมาให้ได้ศึกษา

 

ศิริราช เผยผลวิจัย "ฟาวิพิราเวียร์" ช่วยผู้ป่วยโควิดอาการดีขึ้นสูงถึง 79%

 

 ที่มาของโครงการ 

ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ ออกฤทธิ์ด้วยการยับยั้งเอ็นไซม์ RNA-dependent RNA polymerase ซึ่งสามารถยับยั้งไวรัสโควิด-19 ในหลอดทดลองได้

 

จากประสบการณ์ใช้ยาและเก็บผลการรักษาย้อนหลัง พบว่า ได้ผลการรักษาใน ผู้ป่วยโควิด-19 ได้ดี แต่ประโยชน์ในการลดการเสียชีวิต หรือป่วยหนักยังไม่ชัดเจน

 

ทั้งนี้ยังไม่มีการวิจัยแบบเก็บข้อมูลไปข้างหน้าเทียบกับการไม่ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อดูประโยชน์ของการใช้ยาในผู้ป่วยที่เพิ่งเริ่มมีอาการเล็กน้อยหรือปานกลาง

 

 

ศิริราช เผยผลวิจัย "ฟาวิพิราเวียร์" ช่วยผู้ป่วยโควิดอาการดีขึ้นสูงถึง 79%

 

 วิธีการวิจัย 

การศึกษา (Confirmatory Study) ระยะที่ 3 แบบเปิดและมีการสุ่ม (Randomized Controlled Trials) ในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่หนักและยังไม่มีภาวะปอดอักเสบ เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ วันละ 2 ครั้ง ขนาด 1,800 มก./dose ในวันแรก และ 800 มก./dose ในวันต่อมา (62 ราย) และกลุ่มควบคุม (31 ราย) โดยประเมินผลการรักษาจาก NEWS ซึ่งเป็นการประเมินอาการ ตามมาตรฐานสากล โดยดูจากอุณหภูมิ อัตราการหายใจ การเต้นของ หัวใจ ความดันโลหิต ภาวะออกซิเจนในร่างกาย

 

 ผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว  พบว่า

  • ผู้ป่วยในโครงการเริ่มยาเฉลี่ยที่ 1.7 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ
  • เมื่อประเมินอาการในช่วงเวลาการรักษา 14 วัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้น 79% ขณะที่กลุ่ม ควบคุมมีแค่ 32.3% 
  • กลุ่มฟาวิพิราเวียร์ อาการดีขึ้นเร็วกว่าอย่างมีนัยสําคัญ โดยครึ่งหนึ่งของผู้ได้รับ ยาฟาวิพิราเวียร์ มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของการรักษา เมื่อเทียบกับ 14 วันในกลุ่มควบคุม
  • จํานวนไวรัสในผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ลดลงไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุม จนกระทั่งวันที่ 13 และ 28 ของการรักษา ซึ่งจะพบว่า กลุ่มที่ได้ยาฟาวิพิราเวียร์จะมีปริมาณไวรัสต่ำกว่า
  • ผลข้างเคียง พบการขึ้นของระดับกรดยูริคในผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์อย่างมีนัยสําคัญเทียบกับกลุ่มควบคุม ไม่พบอาการ ข้างเคียงอื่นที่แตกต่างกัน

 

ศิริราช เผยผลวิจัย "ฟาวิพิราเวียร์" ช่วยผู้ป่วยโควิดอาการดีขึ้นสูงถึง 79%

 ข้อสรุปและคําแนะนํา  

  • ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสก่อโรคโควิด-19 ยาฟาวิพิราเวียร์ ขนาด 1,800 มก. เช้า-เย็นในวันแรก และ 800 มก เช้า-เย็นในวันต่อมา เป็นการรักษาที่ควรเริ่มทันทีที่มีอาการยังไม่หนัก
  • ยาฟาวิพิราเวียร์รูปแบบยากิน มีราคาไม่แพงและมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงที่น่ากังวล
  • ผลการศึกษานี้ไม่ได้แสดงประสิทธิภาพในผู้ป่วยอาการหนัก
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ เพราะอาจมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก

 

ศิริราช เผยผลวิจัย "ฟาวิพิราเวียร์" ช่วยผู้ป่วยโควิดอาการดีขึ้นสูงถึง 79%

 

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช

logoline