svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สมชัย"มองยุบสภาหลังเอเปคแค่เทคนิคการเมืองเปิดช่องส.ส.ย้ายค่ายทัน 30 วัน

16 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สมชัย ศรีสุทธิยากร"มองการยุบสภาหลังเอเปคก่อนครบวาระเป็นเรื่องไร้สาระ ชี้เป็นเพียงเทคนิคการเมืองหวังให้ ส.ส.ย้ายค่ายทันกรอบ 30 วันก่อนเลือกตั้ง ยันปม 8 ปีนายกฯ ไม่เกี่ยวกับการยุบสภา

16 มีนาคม 2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงการยุบสภาจะเกิดขึ้นภายหลังการประชุมเอเปคนั้น เรื่องนี้เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และเป็นเรื่องของสถาบันทางการเมือง ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ว่าไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินภายใต้สภาชุดนี้ได้ หมายถึงไม่สามารถคุมเสียงของ ส.ส.ในสภาได้อีกต่อไป

 

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่ารัฐบาลอยู่ในช่วงของความพยายามในการประสานฝ่ายต่างๆ เพื่อให้คะแนนเสียงในฝั่งของรัฐบาลมีความมั่นคง ส่วนเรื่องของการนัดรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ กลาง หรือเล็ก ถือว่าเป็นการพยายามที่จะรักษาคะแนนในฝั่งของรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ

 

\"สมชัย\"มองยุบสภาหลังเอเปคแค่เทคนิคการเมืองเปิดช่องส.ส.ย้ายค่ายทัน 30 วัน

 

อย่างไรก็ตาม ตัวแปรสำคัญตนคิดว่าอยู่ที่พรรคเล็ก เนื่องจากพรรคเล็กมีคะแนนเสียงรวม 10-20 เสียง ที่พร้อมจะเปลี่ยนไปอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ และหากเปลี่ยนไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะถือเป็นชัยชนะและความพ่ายแพ้ของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง และเชื่อว่าจังหวะที่พรรคเล็กจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นคือช่วงเปิดสมัยประชุมหน้า ที่คาดว่าจะมีการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

"เชื่อว่าการเจรจาต่อรองจะเกิดขึ้น และอาจจะมีการเสนอให้ทางฝ่ายรัฐบาลให้ประโยชน์อะไรต่างๆ ซึ่งเป็นการตอบแทนการลงคะแนน ซึ่งหากถึงจุดนั้นแล้วการเจรจาสำเร็จ ประสานผลประโยชน์กันได้ การยุบสภาก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลจะมีเสียงสนับสนุนในสภาเพียงพอ แต่หากข้อเสนอเป็นข้อเสนอที่ใหญ่มาก และไม่อาจรับได้ ก็คิดว่าคงเป็นจังหวะเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องตัดสินใจว่าถ้าบริหารราชการแผ่นดินต่อไปไม่ได้ จะเลือกลาออกหรือยุบสภา ซึ่งการยุบสภาน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมและน่าจะเป็นทางออกที่เป็นทางเลือกของพล.อ.ประยุทธ์" นายสมชัย กล่าว

 

ส่วนประเด็นที่ระบุว่าจังหวะการยุบสภาที่เหมาะสมจะเป็นหลังการประชุมเอเปคนั้น แต่หากนำจังหวะเวลาดังกล่าวมาพิจารณา จะไม่มีความหมายอะไร เพราะหากรอถึงเดือน พ.ย. ก็จะครบวาระ 4 ปี ของรัฐบาลแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมี.ค. 2566 เวลาเพียง 4 เดือนไม่มีความหมายอะไร เพราะการรอให้ครบวาระ กลับกลายเป็นข้อจำกัดทางการเมืองมากกว่า เนื่องจากหากอยู่จนครบวาระ ส.ส.จะต้องสังกัดพรรคการเมืองอย่างน้อย 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้การขยับตัวทางการเมืองของ ส.ส.เป็นไปได้ยากลำบาก

 

สำหรับการตัดสินใจยุบสภาก่อนครบวาระนั้น จะทำให้การนับสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของ ส.ส. จะนับเหลือเพียง 30 วันก่อนวันเลือกตั้ง ตนจึงคิดว่านี่เป็นเทคนิคทางการเมืองที่ฝ่ายรัฐบาลจะตัดสินใจใช้ เพื่อทำให้มีโอกาสขยับขยายทางการเมือง พรรคการเมืองที่เป็นพรรคใหม่ตั้งขึ้นมา จะได้เป็นโอกาสที่จะรองรับสมาชิกพรรคเดิมที่อาจจะรู้สึกว่าไม่สามารถใช้เป็นหนทางที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

"เพราะฉะนั้นหากมาบอกว่ายุบสภาหลังเอเปค เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ผมว่าไร้สาระ เพราะมันไม่ได้เป็นของขวัญอะไรเลย มันคือเทคนิคทางการเมืองเท่านั้น ที่จะทำให้สามารถย้ายพรรคการเมืองได้ อันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่หรือน่าสนใจอะไร" นายสมชัย กล่าว 

 

นายสมชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลทุกชุดก็ปรารถนาจะอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด และการที่จะทำความหวังแก่คนที่ร่วมรัฐบาลได้ว่า จะอยู่กันอีกนานก็จะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่ายังสามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ตนคิดว่าในขณะนี้ ทุกคน ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมกับการเลือกตั้งอยู่แล้ว พรรคการเมืองไม่กลัวการยุบสภา จะสังเกตได้ว่าที่ผ่านมาทุกพรรคมีการไปสรรหาตัวผู้สมัครของเขตต่างๆ มีการเตรียมตัวเกี่ยวกับโครงสร้างของพรรคในระดับพื้นที่เพื่อพร้อมที่จะดำเนินการเลือกตั้งทันที

 

ส่วนการไปยุบสภาหลังเอเปค จะมีเรื่องเงื่อนไขการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ของนายกรัฐมนตรีนั้น นายสมชัย กล่าวว่า เป็นประเด็นที่จะต้องพูดคุยกันและอาจจะกลายเป็นประเด็นที่บานปลาย ซึ่งจะเกิดขึ้นและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงเดือนส.ค.นี้ ซึ่งการจะผ่านไปถึงการประชุมเอเปคได้นั้น ก็จะต้องผ่านด่านนี้ด้วย ซึ่งทั้งตัวนายกฯและรัฐบาลจะต้องอยู่ในกระแสที่จะถูกกดดันว่า คือ การไม่ถูกต้องของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งอาจจะเกินไปกว่าที่เงื่อนไขรัฐธรรมนูญกำหนด

 

ทั้งนี้ การยุบสภาจะต้องเกิดก่อนเดือนสิงหาคมหรือไม่นั้น การยุบสภาไม่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง แต่การยุบสภาเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินภายใต้จำนวน ส.ส.ที่สนับสนุนรัฐบาลในสภาที่มีไม่เพียงพอ

logoline