แหล่งข่าวด้านการทหารของอังกฤษ แสดงความมั่นใจว่า กองทหารรัสเซียอาจยืนหยัดสู้รบอย่างเต็มรูปแบบในยูเครนได้อีก 10-14 วัน และพวกเขาต้องใช้เวลาในช่วงนี้ดิ้นรนหาทางรุกคืบอย่างมีนัยสำคัญ โดยแม้จะระดมโจมตีเมืองใหญ่ๆ อย่างหนักหน่วง รวมทั้งกรุงเคียฟและคาร์คีฟ แต่การต้านทานของฝั่งยูเครน ก็ทำให้การบุกล่าช้าไปมาก ซึ่งฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่า การบุกยูเครนแม้จะเข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้ว แต่ก็ยังไปไม่ถึงไหน สูญเสียกำลังพลไปมากและกำลังขาดแคลนพลังงาน
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แถลงผ่านวิดีโอเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ว่า ฝ่ายต่านต้านที่กล้าหาญของยูเครน ยังคงความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงให้แก่ทหารรัสเซีย ในไม่ช้าจำนวนเฮลิคอปเตอร์รัสเซียที่ถูกยิงตกจะถึงหลักหลายร้อยลำ พวกเขาเสียเครื่องบินขับไล่ไปแล้ว 80 ลำ รถถังหลายร้อยคันและยุทโธปกรณ์อื่นๆ อีกหลายพัน ในเวลา 19 วัน กองทัพรัสเซียสูญเสียในยูเครน มากกว่าสงคราม 2 ครั้ง ที่ทั้งนองเลือดและกินเวลายาวนานหลายปีที่เชชเนียเสียอีก
แม้กองทัพรัสเซีย จะยืนยันว่า ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผน โดยวิคเตอร์ โซโลตอฟ ผู้อำนวยการกองกำลังพิทักษ์ชาติของรัสเซีย และครั้งหนึ่งเคยรับหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัวของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ยอมรับว่า ทุกอย่างไม่ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วตามที่ต้องการ แต่ก็ยืนยันว่า รัสเซียกำลังประสบชัยชนะไปทีละขั้น และยังคงเลือกที่จะเข้ายึดเมืองขนาดใหญ่ในยูเครนตามยุทธศาสตร์เดิม
ทหารรัสเซียได้ระดมโจมตีเมืองท่าคาร์คีฟกับปิดล้อมกรุงเคียฟ และเชอร์นิฮีฟ เพื่อหวังปรับปรุงจุดยืนในการเจรจาของรัสเซีย และแสดงให้เห็นว่ารัสเซียกำลังเข้าใกล้ชัยชนะ