svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

คณะก้าวหน้าขอปชช.ลงชื่อแก้รธน.ปลดล็อกกฎหมายท้องถิ่น

14 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"คณะก้าวหน้า"ผุดแคมเปญขอคนละชื่อ"ปลดล็อกท้องถิ่น" จ่อล่ารายชื่อแก้รัฐธรรมนูญ หมวด 14 ยุบส่วนภูมิภาค ลุยกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้ มั่นใจได้รับความเห็นชอบหากไม่ยุบสภาก่อน

14 มีนาคม 2565 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะ  และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะ ร่วมแถลงถึงความพร้อมในการเตรียมยื่นร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น และยื่นเป็นผู้เชิญชวนประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญแก่รัฐสภา ในแคมเปญ "ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น" 


โดยนายปิยบุตร กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พบว่าอำนาจหน้าที่ในเรื่องการจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกิดความซ้ำซ้อนกับราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนกลาง หลายเรื่องผู้มีอำนาจตีความทางกฎหมาย ในลักษณะจำกัดอำนาจหน้าที่ในการจัดทำบริการสาธาณะของท้องถิ่น ทั้งเรื่องรายได้ หรืองบประมาณ พบว่ามีไม่เพียงพอที่สามารถบริหารงานได้อย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพ อีกทั้ง หลายกรณียังพบมีการแทรกแซงการทำงานด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว 

 

คณะก้าวหน้าขอปชช.ลงชื่อแก้รธน.ปลดล็อกกฎหมายท้องถิ่น

 

"ในสายตาของ คสช. และรัฐบาลสืบทอดอำนาจ พวกเขามองท้องถิ่นเสมือนเป็นลูกน้องของเขา เป็นแขนขาของเขา รวมถึงเป็นกลไกของรัฐบาลของเขา ยืนยันว่าวิธีคิดแบบนี้ไม่สอดคล้องกับเรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พวกเราตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่มา เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้จัดทำนโยบายที่ชื่อว่า ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น ตั้งใจว่าหากวันหนึ่งเข้าไปเป็นรัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้ ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่เรายังไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาล และดันมาถูกยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เราจึงมาก่อตั้งเป็นคณะก้าวหน้า แต่ยืนยันว่าจะรณรงค์แนวคิดนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป ซึ่งหนึ่งในเรื่องนั้นคือเรื่องการกระจายอำนาจ" นายปิยบุตร กล่าว 

เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวต่อว่า แคมเปญ "ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น" โดยจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ คือ มาตรา 265 (1) ที่เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 50,000 รายชื่อ สามารถเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมได้ วันนี้ (14มี.ค.) เห็นควรยกเลิกหมวด 14 และเขียนใหม่ โดยนำเนื้อหาสิ่งเป็นข้อดีในรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 40 และ 50 มาร่วมด้วย ทั้งนี้ใจความหลักที่คณะก้าวหน้าต้องการจะแก้ไข อาทิ การบัญญัติรับรองหลักความเป็นอิสระของท้องถิ่น และหลักการปกครองตนเองตามหลักเจตนารมณ์ของประชาชนเอาไว้

 

ส่วนการบัญญัติหน้าที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ทั่วไปในการจัดทำบริการสาธารณะในระดับท้องถิ่น หมายเหตุมีบางเรื่องเฉพาะที่ท้องถิ่นทำไม่ได้ เรื่องความซ้ำซ้อน ของการจัดทำนโยบายสาธารณะ การจัดการปัญหาเรื้อรัง เช่น แผนขั้นตอนการกระจายอำนาจ ในระดับองค์กรส่วนท้องถิ่นผู้บริหาร และสมาชิกท้องถิ่น ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดทุกกรณี ให้ออกกฎหมายว่าด้วยเรื่องของรายรับของท้องถิ่น เสนอเพิ่มสัดส่วนที่ท้องถิ่นหามาได้ ตัดรายได้ที่ส่วนกลางได้รับร้อยละ 50 เพิ่มความยืดหยุ่นในการหารายได้ของท้องถิ่น ในการจัดทำนโยบายสาธารณะ กำกับดูแลท้องถิ่น ต้องไม่เกินหลักความเป็นอิสระของท้องถิ่น สนับสนุนการมีส่วนร่วมของพลเมือง วางโรดแมพยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และภายใน 5 ปี ครม. จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติถามประชาชนว่าต้องการให้ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคแล้วหรือยัง 

 

คณะก้าวหน้าขอปชช.ลงชื่อแก้รธน.ปลดล็อกกฎหมายท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการหลังจากนี้ จะต้องมีรายชื่อของผู้เชิญชวนจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน จึงจะสามารถนำร่างดังกล่าวไปยื่นต่อประธานรัฐสภาได้ จากนั้นจึงจะเริ่มล่ารายชื่อประชาชนต่อไป โดยวางกรอบวันที่ 1 เม.ย. เป็นวันเริ่มโครงการวันแรก

 

คณะก้าวหน้าขอปชช.ลงชื่อแก้รธน.ปลดล็อกกฎหมายท้องถิ่น

 

ด้านนายธนาธร ได้กล่าวถึงโครงสร้างรัฐว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะท้องถิ่น ที่มีข้อจำกัดเรื่องอำนาจผนวกกับการคุมที่เข้มข้นของ สตง. ทำให้ไม่มีใครคิดนอกกรอบ และการงบประมาณที่มีจำกัดทำให้ไม่เพียงต่อการแก้ปัญหา และตอบสนองความต้องการของประชาชน และแม้ว่าองค์กรปกครองส่วนถ้องถิ่น จะถูกมองว่ามีข้อจำกัดเรื่องศักยภาพและเรื่องการทุจริต แต่ศักยภาพเป็นเรื่องที่สร้างได้หาก หากไม่ถูกจำกัดทั้งเรื่องโครงสร้างและงบประมาณ ส่วนเรื่องการทุจริต ต้องยอมรับว่ามีทุกที่ทุกอาชีพ แต่การดึงงบประมาณมาใกล้ประชาชนจะทำให้ประชาชนตระหนัก ให้ความสนใจ สุดท้ายประชาชนจะเข้ามาตรวจสอบงบประมาณของตนเอง

 

"หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านและมีผลบังคับใช้ จะทำให้ไม่มีตัวกลางในการจัดสรรงบประมาณ ทำให้งบประมาณอยู่ใกล้ประชาชนมากขึ้น และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เร็วขึ้น" นายธนาธร กล่าว

 

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 ว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น เพื่อปลดล็อกท้องถิ่น และปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ของท้องถิ่น โซ่ตรวนที่ล็อกอยู่จะถูกทำลาย ดอกไม้จะเบ่งบาน โดยจะเริ่มให้ประชาชนลงชื่อได้ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ทั้งออนไลน์ และลงชื่อโดยตรง ซึ่งหากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองหรือยุบไปเสียก่อน ก็คาดว่าจะได้เข้าสู่การพิจารณาของสภา และมั่นใจจะได้รับความเห็นชอบแน่นอน  


 

logoline