"ทนายรณรงค์" ยื่นผู้ตรวจการฯ สงสัย "แซน-กระติก" ถูกตรวจสารเสพติดหรือไม่

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง หลังพลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 24 ก.พ.ก่อนพบร่างลอยเหนือน้ำในอีก 2 วันถัดมา แต่จนมาถึงตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า คดีจะจบลงที่ตรงไหนนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 มี.ค.) นายรณรงค์ แก้วเพชร ทนายความชื่อดัง ยื่นหนังสือร้องเรียนนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังติดใจเรื่องผลการตรวจสารเสพติดในร่างกายของ “กระติก” อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และ “แซน” วิศาพัช มโนมัยรัตน์ สองพยานบนเรือว่า ได้มีการตรวจหรือไม่ และถ้าไม่มีการตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เหตุผลอะไร

โดยนายรณรงค์ กล่าวว่า รู้สึกติดใจสงสัยเรื่องการตรวจสารเสพติดในคดีนี้ มานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว ทำไมถึงออกมาไม่ครบทั้ง 5 คน เพราะมีอยู่ 2 คน ทำไมถึงไม่มีผลตรวจ หรือว่าทั้งคู่ไม่ได้ตรวจเลย ซึ่งใน พ.ร.บ.ยาเสพติด มีการให้อำนาจตำรวจในการตรวจค้นค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจอะไร ถ้าไม่มีการตรวจจริงๆ

“ผมไม่แน่ใจว่า หนึ่งคนที่อยู่บนเรือ หรืออาจจะหลายคน มีความสนิทกับบิ๊กในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือเปล่า หรือทำให้การตรวจ ไม่จำเป็นต้องตรวจก็ได้ ผมขอย้ำว่า ผมไม่ได้ว่า ถ้าผู้ต้องสงสัย หรือพยานจะไม่ขอตรวจสารเสพติด แต่ผมแค่อยากรู้หลักเกณฑ์ในการใช้ดุลยพินิจของตำรวจว่า จะตรวจหรือไม่ตรวจ ฉะนั้นตรงวัดจากอะไร เป็นธรรมกับทุกคนหรือไม่”

ทั้งนี้หากมีการอ้างเหตุไม่ขอตรวจสารเสพติดจริง จะได้ยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำเรื่องไปยังรัฐสภา ให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีการตรวจได้ แต่ถ้าดุลยพินิจไม่ตรวจ โดยไม่มีเหตุผล หรือไม่เป็นไปตามระเบียบ ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน จะต้องส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน

“ตอนนี้สังคมคาใจ ถ้าหากพยานบนเรือมีการเสพยา เป็นไปได้มั้ยว่า เขาเกิดอาการหลอนยาแล้วไปฆ่าคุณแตงโม ตรงนี้ตำรวจทำไม่เคลียร์ จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า คดีนี้เป็นอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรมกันแน่”

ส่วนตัวเคยทำคดีฆาตกรรมมาเยอะ และขอยกตัวอย่างคดีของ “ซูลุยผิว” ซึ่งเป็นเด็กชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิตในไร่อ้อย จ.สุพรรณบุรี เมื่อปี 2561 โดยคดีนี้มีการใช้หมอนิติเวชถึง 3 คน ในการผ่าพิสูจน์ครั้งแรก เพื่อเก็บทุกอย่างจากตัวเด็ก แตกต่างจากคดี “แตงโม” ที่เป็นคดีใหญ่สังคมให้ความสนใจ กลับใช้แพทย์นิติเวชผ่าเพียงคนเดียว และกว่าจะส่งไปผ่าที่อื่น ต้องใช้เวลานานอีกหลายวัน

“การเก็บหลักฐานผ่าศพ ควรจะเริ่มตั้งแต่ครั้งแรก ด้วยการเอาหมอหลายๆ คนเข้าไป เพื่อให้มีความเป็นอิสระ รวมถึงกรณีเคลื่อนย้ายศพไปผ่าที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ทั้งที่รถไปถึงนิติเวช ธรรมศาสตร์แล้ว โดยนิติเวชตำรวจ มีสายบังคับบัญชา ตรงนี้เราจะเชื่อเรื่องอิสระได้มากแค่ไหน รวมถึงการแทรกแซงที่น่ากังวลอีก เพราะมันเคยเกิดขึ้นในคดีอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับนิติเวช อย่างการสั่งแก้ไขความเร็ว คดีเฟอร์รารี่ชนตำรวจทองหล่อตาย”

ขณะที่กระแสข่าวว่า บาดแผลต้นขาของ “แตงโม” อาจเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิตนั้น ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้สำคัญกับคดี เพราะช่วงที่ผ่านมา เรามุ่งไปที่บาดแผลอาจเกิดจาก “ใบพัด” หรือ “ฟินเรือ” แต่ตนเองอยากให้ตำรวจไปหาความเป็นไปได้ของวัตถุอย่างที่ 3-4 ที่อาจทำให้เกิดบาดแผลลักษณะดังกล่าวได้เหมือนกัน

“ผู้เชี่ยวชาญเรือหลายคน เคยมีความเห็นอยู่แล้วว่า หากแตงโมตกเรือ โอกาสจะโดนใบพัดเรือถือว่าน้อยมาก นอกจากว่าเรือจะสะบัด ตอนนี้แตงโมตกตำแหน่งท้ายเรือจริงหรือไม่ ยังไม่มีใครยืนยัน เพราะถ้าตกจากด้านหนา แล้วจมลอดใต้ท้องเรือ ก็มีความเป็นไปได้ แล้วคลิปหลักฐานที่ชัดเจนก็ยังไม่มีเลย และตำรวจมีหลักฐานก็ควรเปิดให้สังคมได้ดู เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องความศรัทธากระบวนการยุติธรรมในเวลานี้”