สถานการณ์การสู้รบรัสเซีย -ยูเครน ที่ยังดำเนินไปอย่างยื้ดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าอาหารเลี้ยงสัตว์ จนภาคการเกษตรกำลังได้รับความเดือดร้อน ซ้ำร้าย เริ่มพบความผิดปกติในการกักตุนอาหารเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศเพื่อเก็งกำไร
ล่าสุด เมื่อว้นที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ รวมถึงปลัดกระทรวงพาณิชย์ และ อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ดำเนินการตรวจสอบความผิดปกติของสินค้า
โดยหนังสือมีเนื้อหาว่า ด้วยสถานการณ์ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30% จากปี 2564 ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 10.05 บาท/กก. เป็น 13 บาท/กก. ส่วนหนึ่งจะได้รับอิทธิพลจากสถานการณ์วัตถุดิบโลก แต่มีข้อสังเกตว่าพฤติกรรมการซื้อขายข้าวโพดไม่เป็นปกติ
โดยสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้รับแจ้งจากสมาชิก
ว่าไม่สามารถหาซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ และมีการเรียกราคาเพิ่มเติมจากราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ประกาศรับ
ซื้อ ซึ่งถือว่าเข้าข่ายกักตุนสินค้า
ในการนี้ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย จึงขอเรียนมายังท่านเพื่อพิจารณาตรวจสอบปริมาณสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของพ่อค้าคนกลาง ว่ามีความเคลื่อนไหวหรือไม่อย่างไร เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าซึ่งถือเป็นการฉวยโอกาสทำกำไรในสภาวะการณ์ที่ราคาวัตถุดิบสูง
หากมีการกระทำดังกล่าวจริง ถือว่าเป็นการซ้ำเติมให้ภาคธุรกิจอาหารสัตว์และปศุสัตว์ไทยได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. มีความเคลื่อนไหวจากภาครัฐบาล โดย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีปรากฏปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงงานผลิตอาหารสัตว์ไม่สามารถหาซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของพ่อค้าคนกลางทั่วประเทศโดยด่วน
ขณะเดียวกัน พร้อมให้รายงานนายกฯรับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีการกักตุนสินค้า ปั่นราคาแพง ฉวยโอกาสทำกำไรในสภาวการณ์ที่ราคาวัตถุดิบสูงในขณะนี้ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดทุกราย โดยไม่ละเว้น