ชาวยูเครนขึ้นรถบัสคันแรกออกจากเมืองซูมีทางภาคตะวันออกมุ่งหน้าไปเมืองโปลตาวาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนขับขี่รถส่วนบุคคลออกนอกเมืองได้ นอกจากนี้ชาวบ้านหลายครอบครัวก็ออกเดินทางจากเมืองเออร์ปิน ทางทิศตะวันตกของกรุงเคียฟแล้วเช่นกัน หลังจากเมืองนี้ถูกยิงถล่มอย่างหนักเมื่อวันอาทิตย์
รัสเซียประกาศหยุดยิงและเปิดเส้นทางอพยพประชาชนชาวยูเครนออกจาก 5 เมือง ได้แก่ เชอร์นิฮิฟ, ซูมี, คาร์คีฟ และมาริอูโปล รวมถึงกรุงเคียฟในวันนี้ หลังจากเมืองเหล่านี้ถูกปิดล้อมมานานหลายวัน และยืนยันว่า ไม่มีเงื่อนไขว่าคนเหล่านี้จะต้องอพยพไปยังรัสเซีย
ก่อนหน้านี้เซอร์กี คิสลิตสยา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำยูเอ็น กล่าวในที่ประชุมเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียพยายามปิดกั้นไม่ให้พลเรือนอพยพออกจากกรุงเคียฟ เมืองคาร์คีฟเมืองโดเนตสก์ และเมืองเคอร์สัน โดยเปิดฉากยิงใส่ผู้อพยพและยานพาหนะ รวมทั้งยิงทำลายถนนที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการอพยพ และไม่ให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ส่วนสถานการณ์สู้รบ รัสเซียยังคงระดมยิงปืนใหญ่ถล่มในหลายเมืองตั้งแต่คืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น รัสเซียโจมตีทางอากาศทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันในเมืองเชิร์นยาคีฟในแคว้นฌือตอมือร์ และยังมีการยิงถล่มย่านที่พักอาศัยในเมืองซูมี, เมืองมิโคเลฟ และเมืองคาร์คีฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 17 ราย
ข่าวกรองกองทัพยูเครน เปิดเผยวันนี้ด้วยว่า ทหารยูเครนสามารถสังหารพลโทวิทาลี เกราสิมอฟ เสนาธิการทหารแห่งกองทัพภาคที่ 41 ของรัสเซียที่นอกเมืองคาร์คีฟเมื่อวันจันทร์ แต่รัสเซียยังไม่ยืนยันข่าวการสูญเสียทหารยศนายพลเป็นคนที่ 2 และสื่อตะวันตก บอกว่า ข่าวนี้ยังไม่อาจพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ พลโทเกราสิมอฟ มีบทบาทในสงครามเชชเนียครั้งที่ 2, ปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย และการผนวกไครเมียเข้าเป็นของรัสเซีย
และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวตอบโต้ข่าวของสื่อตะวันตกว่า กองทัพรัสเซียใช้ทหารเกณฑ์และทหารกองหนุนเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารในยูเครน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการส่งทหารเกณฑ์และเรียกทหารกองหนุนไปรบในยูเครน
ส่วนสถานการณ์สู้รบที่ยืดเยื้อใกล้ครบ 2 สัปดาห์ทำให้ชาวยูเครนอพยพข้ามพรมแดนไปประเทศเพื่อนบ้านเกิน 2 ล้านคนแล้ว และธนาคารโลกอนุมัติเงินกู้และเงินให้เปล่ารวม 723 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือยูเครนแล้ว