ผู้ลี้ภัยจากยูเครนจำนวนมากยังคงเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ชายแดนทางตะวันตกอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยข้ามเข้าไปในโปแลนด์มากถึง 100,000 คน เพื่อเข้าไปพักพิงภายในศูนย์อพยพชั่วคราวที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์กีฬาหรือสถานีรถไฟ
การต่อสู้ที่รุนแรงระหว่างกองทัพรัสเซียกับยูเครน และมีการโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธ ทำให้หลายครอบครัว ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิงต้องหนีข้ามพรมแดนเพื่อความปลอดภัย บางครอบครัวต้องเดินเท้าเปล่าเป็นเวลากว่า 2 วันถึงจะถึงพรมแดน ซึ่งนอกจากโปแลนด์แล้ว ยังมีชาวยูเครนที่ลี้ภัยเข้าไปในฮังการี สโลวาเกีย และโรมาเนีย
โปแลนด์เป็นประเทศที่ชาวยูเครนลี้ภัยเข้าไปมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งมีรายงานว่าผู้ลี้ภัยต้องจอดรถต่อคิวกันยาวถึง 30 กิโลเมตร เพื่อเข้ารับการตรวจเอกสารและผ่านขั้นตอนการข้ามพรมแดน ทำให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมากตัดสินใจทิ้งรถไว้ข้างทางและเดินข้ามพรมแดนด้วยตัวเอง