ทหารยูเครนสละชีพระเบิดสะพาน-พลเรือนขวางรถทหาร
ทหารยูเครนและประชาชนพร้อมใจกันปกป้องเสรีภาพจนถึงที่สุด โดยมีรายงานว่าทหารนายหนึ่งสละชีวิตระเบิดตัวเองบนสะพานเพื่อชะลอการบุกของทหารรัสเซีย และพลเรือนคนหนึ่งพยายามขัดขวางรถบรรทุกทหารของรัสเซียด้วยการเอาตัวเองเข้าไปยืนขวาง
ขณะที่ทหารรัสเซียบุกเข้าโอบล้อมกรุงเคียฟของยูเครน ทหารและพลเรือนต่างพากันออกมาปกป้องเสรีภาพตามเส้นทางทุกแห่ง ถนนทุกสายที่มุ่งเข้าสู่เมืองหลวง ทำให้เกิดการสู้รบตามท้องถนนเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ระบุว่าความกล้าหาญของชาวยูเครนทำให้เกิดการสู้รบนองเลือด และชะลอการบุกของทหารรัสเซียออกไป 24 ชั่วโมง ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทหารรัสเซียที่ข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครนตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดี ยังไม่สามารถยึดเมืองขนาดใหญ่หรือควบคุมน่านฟ้าได้ ทำให้ทหารรัสเซียเตรียมใช้ยุทธวิธีการรบแบบปะทะตามถนน ส่วนทหารยูเครนได้รับมือด้วยการสร้างแนวป้องกันบนถนนทางหลวง
ยูเครนอ้างว่าการต้านทานของกองทัพทั่วประเทศทำให้ฝ่ายรัสเซียสูญเสียอย่างหนัก ทั้งยังระบุด้วยว่าสังหารทหารรัสเซียไปแล้ว 2,800 นาย ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้เรียกร้องหรือเกลี้ยกล่อมให้กองทัพยูเครนแทนที่จะสู้กับทหารรัสเซีย ให้หันไปจับกุมหรือโค่นอำนาจของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ซึ่งรัสเซียเรียกว่าเป็นผู้นำ "นีโอ-นาซี" ติดยา หรือไม่ก็วางอาวุธและกลับบ้านไป
สงครามยังสร้างวีรบุรุษที่เสียสละชีวิตตัวเอง เมื่อนาวิกโยธินชื่อ วิทาลี ชาคุน ใช้ระเบิดทำลายสะพานเฮนิเช็ค ในไครเมีย เพื่อชะลอการบุกของทหารรัสเซีย ทำให้กองพันของเขาสามารถจัดกำลังพลและตั้งรับได้ใหม่ เสนาธิการกองทัพบกยูเครนโพสต์ว่า ชาคุนตัดสินใจแล้วว่ามีหนทางเดียวที่จะยับยั้งทหารรัสเซียก็คือการระเบิดสะพาน แต่ด้วยเพราะเป็นระเบิดที่มีความรุนแรงทำให้เขาไม่มีเวลาหนี โดยเขาส่งข้อความบอกเพื่อนทหารว่าจะทำการระเบิดสะพาน และแค่ 2 วินาทีต่อมา เสียงระเบิดก็ดังสนั่น เชื่อว่าชาคุนเป็นหนึ่งในชาวยูเครนอย่างน้อย 137 คน ที่เสียชีวิตในวันแรกที่รัสเซียบุก
ในฝั่งพลเรือนก็มีชายที่กล้าหาญคนหนึ่งยืนขวางขบวนรถบรรทุกทหารรัสเซีย ทำให้ถูกย้อนรำลึกไปถึงชายที่ถูกขนานนามว่า "tank man" ซึ่งเป็นชายชาวจีนคนหนึ่ง ที่หิ้วถุงกระดาษไปยืนขวางหน้าขบวนรถถังที่จตุรัสเทียน อัน เหมิน ของจีน เมื่อปี 2532 แต่ภาพเหตุการณ์ของยูเครนเชื่อว่า บันทึกได้ที่พื้นที่สู้รบทางใต้ของยูเครนที่ติดกับไครเมีย
และในขณะที่ทางการเรียกร้องให้ประชาชนหันมาทำระเบิดขวด (molotov cocktail) เพื่อปกป้องตนเอง รัฐบาลยูเครนก็ได้แจกจ่ายปืนกลให้ประชาชนใช้ในยามฉุกเฉินเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู โดยในภาพจะเห็นประชาชนพากันเลือกปืนยาวจากในรถที่ขนมาบนรถบรรทุก และอีกภาพแสดงให้เห็นผู้ชายยืนเข้าแถวยาวเพื่อรอรับปืน AK-47 ซึ่งการแจกจ่ายอาวุธแบบนี้ กำลังเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วยูเครน
