svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

“สุรชาติ” ชี้ สงครามโลกครั้งใหญ่เกิดแน่หาก “รัสเซีย” บุก “ยูเครน”

22 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“นักวิชาการความมั่นคง” ระบุหาก”รัสเซีย” บุก “ยูเครน” จะเป็นสงครามโลกขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ชี้ทางออก “สหรัฐ” ต้องไม่รับยูเครน เข้า “NATO”

จากกรณี “วิฤติยูเครน” หลังจากประธานาธิบดี "วลาดิมีร์ ปูติน" ของรัสเซีย ประกาศรับรองดินแดนด้านตะวันออกของยูเครน สั่งทหารเข้าควบคุมพื้นที่แล้ว

 

ล่าสุด (22 ก.พ. 65) นายสุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการความมั่นคง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความเห็นผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” โดยมองว่าการที่ “ปูติน” ไม่ได้ส่งกองทัพเข้าไปยังยูเครน แต่มีการเข้าไปรับรองพื้นที่กบฎและส่งทหารไปคุ้มครองพื้นที่กบฎ เท่ากับจุดไฟสงครามแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่ตามมาหลังจากนี้คือ ตลาดหุ้นแขวน

 

“สุรชาติ” ชี้ สงครามโลกครั้งใหญ่เกิดแน่หาก “รัสเซีย” บุก “ยูเครน”

 

ทั้งนี้จากการไล่เรียงเหตุการณ์นับตั้งแต่ “ปูติน” ได้ประกาศรับรองสถานะภูมิภาคโดแนตสก์และลูฮันสค์ จากนั้นได้สั่งกองกำลังเข้าสู่พื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน อ้างปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ซึ่งฝ่ายตะวันตกตอบโต้ชัดว่านี่ไม่ใช่การรักษาสันติภาพ ซึ่งในเวลาต่อมา “ยูเครน” เรียกร้องให้เปิดการประชุมฉุกเฉินของยูเอ็น และ ยูเอ็นประกาศเรียกเปิดการประชุมฉุกเฉิน ซึ่งประธานาธิบดียูเครน ได้ประกาศว่ารัสเซียบุกรุกประเทศ ขณะที่รัสเซียอ้างสิทธิในพื้นที่  จึงมองว่าขณะนี้ยังเหลือความหวังเพียงหนึ่งทาง ซึ่งสหรัฐฯ หวังเรื่องการเจรจาทางการฑูตกับรัสเซีย แม้ยังมีความกังวลว่าล้อรถถังจะเคลื่อน

 

ทั้งนี้ “นักวิชาการความมั่นคง” มองอีกว่ารัสเซียมี 3 ทางเลือกใหญ่ คือ แต่ทางเลือกที่ทุกคนกลัวที่สุด ได้แก่ทางเลือกที่สุดโต่งอย่างเช่นสงครามใหญ่ ซึ่งนับเป็นเรื่องใหญ่แน่  คงตั้งใช้ทั้งกำลังทางบก ทางเรือ และทางอากาศ เนื่องจากปัจจุบันกำลังรบทางเรือของรัสเซียได้ถูกวางในทะเลดำแล้ว  และคำถามคือจะขยายตัวเป็นสงครามโลก หรืออีกอย่างเปรียบเทียบกับในอดีตคือสงครามเกาหลี  แต่ถ้าลดระดับลงมาเป็นการใช้กำลังอย่างจำกัด ใช้กำลังยึดพื้นที่บางส่วนซึ่งก็คงหนีไม่พ้นการรบและคงจะมีการสูญเสียตามมา

 

ส่วนเรื่องการที่รัสเซียออกมาประกาศรับรองเอกราช “นักวิชาการความมั่นคง”  มองว่าเป็นขั้นตอนที่ต่ำที่สุด เป็นการใช้มาตรการทางการฑูต แต่คงต้องใช้ภาษาว่าเป็นมาตรการทางการฑูตเชิงบังคับ ซึ่งหากหลายคนจำได้ในปี 2014 โดแนตสก์ เป็นพื้นที่ทางการรบที่รบหนักมาก

 

“สุรชาติ” ชี้ สงครามโลกครั้งใหญ่เกิดแน่หาก “รัสเซีย” บุก “ยูเครน”

 

ดังนั้นจึงมองว่าสิ่งที่กำลังเห็นในขณะนี้คือรูปแบบสงครามใหม่ ถ้าต้องเรียกหรือดูปฏิบัติการของรัสเซียในช่วงรัสเซียเริ่มฟื้นตัว นับตั้งแต่วิกฤติจอเจียร์ ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน ถ้าจะเรียกแบบปฏิบัติการของทหารคือ "ไฮบริด วอร์แฟร์" (Hybrid Warfare) หรือ "สงครามพันทาง" ซึ่งมีการใช้กำลังตามรูปแบบและนอกแบบ

 

และต้องยอมรับว่าตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน กำลังรบบางส่วนที่เป็นของขบวนการแบ่งแยกดินแดนเบนไปหารัสเซียเดิม นั่นหมายความว่ารัสเซียกำลังใช้การรบตามแบบกดดัน โดย 3 ทางคือกำลังรบในรูปแบบ กำลังรบนอกรูปแบบ และการใช้ศักยภาพด้านข้อมูลข่าวสารทำสงครามไฮบริด

ซึ่งขณะนี้ยังถือว่าก้าวสู่สเต็ปแรกที่องค์การความมั่นคงประเมินอยู่แล้วว่า อย่างไรรัสเซียคงใช้มาตรการทางการฑูตกดดันเพื่อผนวกดินแดน และคิดว่าในวันข้างหน้ารัสเซียอาจจะผนวกเพิ่มโดยเฉพาะพื้นที่ดินแดนภาคตะวันออกทั้งหมด  ซึ่งการผนวกจะเปิดโอกาสให้รัสเซียเข้าไปตั้งฐานทัพ รวมถึงอ้างสิทธิว่าพื้นที่ดังกล่าวกลับไปเป็นดินแดนของรัสเซีย

 

“นักวิชาการความมั่นคง” กล่าวอีกว่า วันนี้ตัวเลขทหารรัสเซียมีกำลังคร่าว ๆ เท่ากับ 150,000 นาย ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นนับตั้งแต่สงครามเย็นยุติ โดยหากนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องยอมรับว่าการเคลื่อนกำลังครั้งนี้ใหญ่ที่สุด และสร้างความกังวลใหญ่ให้กับหลายฝ่าย เพราะหากมีการเคลื่อนกำลังไปเรื่อยๆ คงรั้งภาวะสงครามไว้ไม่ได้

 

ส่วนคำถามที่ว่าแล้วโลกตะวันตกจะทำอย่างไรต่อไป ? มองว่าจะต้องรอดูมติของที่ประชุมสมัชชาความมั่นคงว่าจะออกมาอย่างไร แน่นอนว่าอาจจะออกมาในรูปแบบการประณาม แต่ทั้งนี้ต้องดูว่ามีสิ่งที่ถูกโยง คือ ท่อก๊าซที่รัสเซียขายให้กับยุโรป ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายเชื่อว่าถ้ามีปัญหารัสเซียจะตัดก๊าซ ซึ่งจะทำให้ชาวยุโรปมีปัญหาเพราะช่วงนี้อากาศเย็น แต่ในขณะเดียวกันมาตรการของฝั่งตะวันตก เห็นชัดคือการประชุมที่มิวนิก ที่เป็นการประชุมใหญ่ในระดับโลกด้านความมั่นคง ซึ่งในครั้งนี้มีวาระการประชุมที่แทบจะเป็นเรื่องเดียวเลย คือวิกฤติยูเครน

 

รวมทั้งเราเห็นผู้นำยูเครน ไปพูดในที่ประโดยเรียกร้องขออาวุธ  ซึ่งเยอรมันเดิมสัญญาว่าจะส่งแต่ไม่สามารถที่จะส่งได้เพราะมีเงื่อนไขของประเทศที่ผ่านสงคราม ซึ่งเยอรมันสงหมวกเหล็กเข้าไปให้ 5,000 ใบ ซึ่งนายกเทศมนตรีเมืองเคียฟระบุชัดเจนว่าไม่เพียงพอ

 

ดังนั้นจึงมองว่าสิ่งที่เราเห็นกำลังเข้าสู่จุดพลิกผันที่สำคัญที่จะเกิดสงครามขนาดใหญ่ที่หลายฝ่ายกังวลหรือไม่คงต้องจับตาดู แต่ที่เห็นสเต็ปแรกคือการใช้มาตการการทางการฑูตแบบบังคับ เท่ากับวันนี้กำลังรบรัสเซียเข้าประชิดมากขึ้น

 

 

เมื่อถามถึงการตอบโต้ทางการทหารอย่างเป็นรูปธรรมจากโลกตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ อังกฤษ อียู  ?  มองว่าทางตะวันตกรู้ว่าถ้าเคลื่อนกำลังหลักเข้าไป ซึ่งตัวเลขทหารอเมริกันที่มีแค่หลักพันต้น ๆ ไม่มีความหมายอะไร แต่หากส่งเข้าไปมากก็จะเกิดปัญหาความตึงเครียดที่มากขึ้น เพราะแม้รัสเซียจะประกาศว่าถอนกำลังแต่ที่จริงแล้วเป็นการจัดกำลังใหม่เพื่อเตรียมรบมากกว่า โดยในช่วงสุดสัปดาห์รัสเซียมีการประกาศการซ้อมรบอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย และชวนประธานาธิบดีเบลารุส  เข้าชมด้วยเพื่อเบลารุสเข้าร่วมกับรัสเซียเต็มที่ ซึ่งทำให้รัสเซียใช้เป็นข้ออ้างว่ากำลังที่เคลื่อนไม่ได้ไปทำอะไรกับยูเครนแต่เพื่อไปซ้อมรบกับเบลารุส โดยเป็นการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงซึ่งปกติเราจะไม่เห็นอย่างนั้นซึ่งมีนัยยะว่าเป็นการเตรียมเข้าสงคราม

 

“สุรชาติ” ชี้ สงครามโลกครั้งใหญ่เกิดแน่หาก “รัสเซีย” บุก “ยูเครน”

 

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเรื่องนี้คงต้องอาศัยเวทีสหประชาชาติเป็นเครื่องมือในการกดดัน รวมถึงสิ่งที่ยูเครนเรียกร้องมาตลอดคือการให้ชาติตะวันตกประกาศแซงชั่น (sanction) ทันที

 

เมื่อถามว่าทำไมสหรัฐไม่กล้าที่จะรุกหนัก ? คำตอบคงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการฑูต แม้ปีกขวาหลายส่วนเชียร์ให้เปิดสงครามซึ่งจะเป็นสงครามโลกแน่ๆ และประสบการณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่สหรัฐเจอเมื่อ 60 ปีที่แล้ว กรณีคิวบา ซึ่งในกรณีนั้น จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานธิบดีสหรัฐในขณะนั้นได้ดำเนินการจนไปสู่การเจรจา ซึ่งเชื่อว่าจนถึงขณะนี้ทางตะวันตกเองไม่มีใครอยากเห็นสงครามใหญ่เพราะถ้าเกิดการรบใหญ่ที่ "ยูเครน" จะเป็นสงครามโลกขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

 

“นักวิชาการความมั่นคง”  มองอีกว่าหากรัสเซียถูกแซงชั่น (sanction) ก็จะส่งผลกระทบหนักเช่นเดียวกันเพราะนั่นหมายความว่ารัสเซียจะถูกดึงออกจากเวทีประชาคมทางเศรษฐกิจของยุโรป แต่หากแซงชั่นแล้ว ไม่เปลี่ยนคือการใช้มาตรการทางทหาร

 

อย่างไรก็ตามโอกาสเจรจาส่วนทุกคนหวังว่าจะเป็นไปได้เพราะขณะนี้ แอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ประสานการเจรจาหรือตัวประสานใจ แต่ความหวังสุดท้ายซึ่งอาจเป็นทางออกในการยุติเหตุการณ์ครั้งนี้คือสหรัฐไม่รับยูเครน เข้าเป็นสมาชิก NATO

 

logoline