ผู้บริโภคเสียประโยชน์! TDRI 'ขวาง' ดีลทรู-ดีแทค

            ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ระบุ ทางออกกรณีการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE มี 3 แนวทาง แนวทางที่หนึ่ง ซึ่งเห็นด้วยที่สุด คือ ไม่ควรให้มีการควบรวมกิจการ ถ้าดีแทคต้องการออกจากตลาดโทรคมนาคมไทยก็ควรขายกิจการ แต่ไม่ใช่การขายให้ 2 รายใหญ่คือ ทรู และบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS เพราะผู้ให้บริการรายใหญ่ของไทยไม่ควรลดต่ำกว่า 3 ราย แต่ควรเพิ่มจำนวนมากขึ้น

            แนวทางที่สอง คือการควบรวมภายใต้การกำหนดเงื่อนไข โดยนำคลื่นความถี่คืนกลับมาและเปิดประมูลใหม่ เพื่อให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ และแนวทางสุดท้ายคือควบรวมแล้วส่งเสริมผู้ให้บริการที่ไม่มีเครือข่ายมาใช้เครือข่ายเสมือน หรือเอ็มวีเอ็นโอ ซึ่งเป็นการให้บริการเคลื่อนที่แบบไม่มีโครงข่าย ซึ่งข้อนี้น่าจะยากสุด แต่ทางที่ดีคือไม่ควรให้มีการควบรวมกิจการ

            หน่วยงานที่กำกับดูแลทั้งกสทช. และคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ควรต้องมีเขี้ยวเล็บ และแสดงความกล้าหาญบนผลประโยชน์ผู้บริโภค หากไม่สามารถกำกับดูแลได้ ระบบกำกับดูแลท้ังระบบล้มเหลว  และเกิดคำถามว่าเรามีกสทช.และคณะกรรมการแข่งขันฯไว้ทำไม

            หากพิจารณาการกำกับดูแลของต่างประเทศ พบว่าการควบรวมทรูและดีแทค อยู่ในโซนอันตรายหรือสีแดง ไม่ควรมีการควบรวม เพราะผู้ให้บริการลดเหลือ 2 ราย ถ้าดูปฏิกิริยาของผู้ประกอบการอีกรายหนึ่ง คือ AIS ที่ไม่ได้คัดค้านใดๆ หน่วยงานกำกับดูแลยิ่งไม่ควรให้ควบรวม เพราะทุกฝ่ายเห็นผลประโยชน์ของการควบรวม ทั้งผู้ที่ควบรวม และเอไอเอส ทำให้ตลาดกระจุกตัว เห็นได้จากราคาหุ้นของทั้ง 3 ราย ปรับตัวสูงขึ้น ดีลนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทุกราย แต่เป็นผลเสียต่อผู้บริโภค คนที่จะเป็นดีลเลอร์ บรรดาร้านค้าจะเหลือสองทางเลือก คนทำนวัตกรรมมีทางเลือกน้อยลง ทุกฝ่ายแย่ลงหมด