ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ยังคงเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อพยายามสร้างความชอบธรรมในการโจมตียูเครน ที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สวนทางกับการประเมินก่อนหน้านี้ ที่ว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย โดยไบเดนได้กล่าวเสริมโดยอ้างอิงการประเมินด้านข่าวกรองว่า "ณ ตอนนี้ ผมมั่นใจว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว (ที่จะบุก) เรามีเหตุผลที่จะเชื่อเช่นนั้น" แต่เขาก็กล่าวเป็นการเปิดทางว่าปูตินยังเปลี่ยนใจได้ถ้าต้องการ ยังคงสามารถเลือกแนวทางทางการทูต และยังไม่สายการเกินไปที่จะคลี่คลายสถานการณ์และกลับสู่โต๊ะเจรจา
ถ้อยแถลงของไบเดนมีขึ้นในขณะที่ฝ่ายที่ฝักใฝ่รัสเซีย เริ่มอพยพพลเมืองออกจากภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครน ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดระเบิดที่รัฐอิสระ ลูฮันสค์ หรือ ลูกานสค์ ในภูมิภาคดอนบาส ทำให้เกิดเสียงเตือนว่าอาจเป็นปฏิบัติการ "สับขาหลอก" (false flag) ของรัสเซีย เพื่อสร้างความชอบธรรมในการบุกโค่นรัฐบาลยูเครน และจากการประเมินล่าสุดของสหรัฐฯ ตอนนี้มีทหารรัสเซียประจำการอยู่ใกล้พรมแดนยูเครนถึง 190,000 นาย ที่รวมทั้งหน่วยรถถัง, ยานหุ้มเกราะลำเลียงพล และยุทโธปกรณ์สนับสนุนที่สนามบินทหาร มิลเลอโรโว ที่อยู่ห่างจากพรมแดนยูเครนไม่ถึง 20 กิโลเมตร
สหรัฐฯ กับอังกฤษ ระบุว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตี ที่ส่งผลให้เว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลและธนาคารของยูเครนล่ม ขณะที่ไบเดนยืนยันว่า "การชวนเชื่อ" ของรัสเซียและกลุ่มแบกแยกดินแดนที่ว่า ยูเครนจ้องสังหารหมู่ชาวรัสเซียที่ดอนบาสไม่เป็นความจริง เขาบอกด้วยว่าเรายังคงเห็นการบิดเบือนข้อมูลที่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากฝั่งที่ฝักใฝ่รัสเซีย ที่อ้างว่ายูเครนวางแผนเปิดฉากโจมตีที่ดอนบาส
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย รายงานในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับช่วงที่ไบเดนแถลงว่า เกิดระเบิดรุนแรงที่ท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ ดินแดนที่แยกตัวเป็นอิสระจากยูเครน และพวกที่ฝักใฝ่รัสเซียอ้างว่าเป็นฝีมือของกองทัพยูเครน และเกิดขึ้นหลังมีรายงานเหตุระเบิดรถยนต์ ที่พุ่งเป้าสังหารแกนนำแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย แต่โชคดีที่เขาไม่ได้รับอันตราย
ตะวันตกเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้สอดคล้องกับคำเตือนก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียจะจัดฉากโจมตีพันธมิตรของตัวเองเพื่อโยนความผิดให้ยูเครน ซึ่งเพียงหนึ่งวันก่อนหน้านี้ นายแอนโธนี บลิงเค่น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งแถลงในที่ประชุมของ 15 ชาติ สมาชิกคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติ ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมว่า จะมีการจัดฉากการโจมตีด้วยระเบิดของผู้ก่อการร้าย หรืออาจถึงขั้นใช้อาวุธเคมีเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเปิดฉากสงคราม และบอกด้วยว่ารัสเซียจะใช้ทั้งระเบิดและขีปนาวุธโจมตีทั่วยูเครน รบกวนการการสื่อสารและใช้การโจมตีทางไซเบอร์สถาบันที่สำคัญของยูเครน เช่น กระทรวงกลาโหม ก่อนที่หน่วยรถถังและทหารจะรุกคืบหน้าเข้าสู่เป้าหมายสำคัญ ที่ถูกล็อกเป้าเอาไว้ในแผนบุกที่รวมทั้งกรุงคีฟหรือเคียฟ ที่มีประชากร 2.8 คน
เว็บไซต์ Foreign Policy รายงานว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า ปูตินมีรายชื่อ "เป้าสังหาร" หรือ "ลักพาตัวไปกักขัง" โดยเฉพาะบุคคลในวงการเมืองและบุคคลที่โดดเด่นอื่น ๆ