องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยแพร่รายงานเมื่อวันอังคาระบุว่า ในช่วงวันที่ 7-13 ก.พ. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลกมากกว่า 16 ล้านคน และผู้เสียชีวิตรายใหม่ ต่ำกว่า 75,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 409 ล้านคน และผู้เสียชีวิตสะสมเกิน 5.8 ล้านคน
และแม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 7 วันจนถึงวันที่ 13 ก.พ. ลดลง 19% เมื่อเทียบกับหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า แต่จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ยังคงที่เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
แปซิฟิกตะวันตกเป็นภูมิภาคเดียวที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้เป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อลดลงมากที่สุด 37% ตามด้วยอเมริกา และแอฟริกา และประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ รัสเซีย ตามด้วยเยอรมนี สหรัฐฯ บราซิล และฝรั่งเศส
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นถึง 38% ในเมดิเตอเรเนียนตะวันออก และเพิ่มขึ้นเกือบ 33% ในแปซิฟิกตะวันตก
รายงานระบุด้วยว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากการศึกษาอย่างจำกัดบ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่า สายพันธุ์ย่อย BA.1 โดยข้อมูลในเดนมาร์ก พบว่า BA.2 แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่า BA.1 ถึง 30% แต่ยังไม่เห็นความแตกต่างของความรุนแรงของอาการป่วยในประเทศที่มี BA.2 เป็นสายพันธุ์หลัก กับประเทศที่มี BA.1 เป็นสายพันธุ์หลัก และจนถึงวันที่ 14 ก.พ. มีการระบาดของ BA.2 ใน 10 ประเทศแล้ว
ส่วนไวรัสโคโรนากลายพันธุ์อื่น ๆ ตั้งแต่ อัลฟา เบตา และเดลตาลดลงทั่วโลก หลังจากโอมิครอนแซงหน้าทุกตัวในทั่วโลกแล้ว