svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม nation online

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
เนชั่นทีวี

การเมือง

รัฐนาวาลุงตู่"เซาะกร่อน"หรือ"เซราะกราว" 

16 กุมภาพันธ์ 2565

สถานการณ์การเมืองช่วงนี้ โดยเฉพาะฟากฝั่งรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องตั้งคำถามว่า อยู่ในภาวะ "เซาะกร่อน" ด้านความสัมพันธ์ หรือกำลังร่วมวงศ์ไพบูลย์ในสไตล์ "เซราะกราว" ​โดยมีพรรคภูมิใจไทยเป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างความมั่นใจให้กับรัฐนาวาลุงตู่ 

คำว่า "เซราะกราว" เป็นคำภาษาเขมร แปลว่า คนต่างประเทศ แต่คนไทยนำมาใช้ในความหมายว่า "คนบ้านนอก" หรือ "คนชนบท" แต่เวลาเอ่ยถึงเซราะกราว มักนึกถึงบุรีรัมย์ และทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มี "เนวิน ชิดชอบ" เป็นหัวเรือใหญ่ 

 

และเป็นที่รู้กันดีว่า เนวิน อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมี น้องชาย คือ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เป็นเลขาธิการพรรค และยังมี "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรค ซึ่งย้ายสำมะโนครัวไปอยู่บุรีรัมย์ด้วย 

 

ฉะนั้นในทางการเมือง จึงนึกถึงพรรคภูมิใจไทย ซึ่งขณะนี้กำลัง "ขึ้นหม้อ" นายกฯง้อขอให้ช่วย จนเกิดวาทะ "หนูช่วยหน่อยนะ" 

 

ขณะที่ "เสี่ยหนู" เอง ก็มีข่าวโชว์ข้อมูลในกระดาษให้ดูเลยว่า รัฐบาลแน่นปึ้ก นายกฯมีทางเลือกเดียว คือ อยู่ครบวาระเท่านั้น เพราะมีเสียงสนับสนุน 260 เสียง หาได้สบายๆ 

 

แต่เมื่อนำตัวเลขมาชำแหละจำนวน 260 เสียง จะมาจากที่ไหน โดยเฉพาะถ้าไม่นับรวมกลุ่มผู้กองธรรมนัส ต่ำสุด 16 เสียง 

 

เสียงจะเกินกึ่งหนึ่งเล็กน้อย ราวๆ 10 เสียง อยู่ที่ 248 เสียง ซึ่งหากต้องการ 260 ต้องหาอีก 12 เสียง ล่าสุดกลุ่มช่างเหลา + สมศักดิ์ พันธ์เกษม เข้าพรรคภูมิใจไทย ก็อาจจะบวก 3 เหลือ 9 เสียง ที่ต้องหาเพิ่ม

 

ขณะที่งูเห่าฝากเลี้ยงก็เหลือไม่มากแล้ว เพราะโดนขับออกมาเกือบหมด น่าจะอยู่ที่ก้าวไกลอีกราวๆ 3-5 เสียง และประชาชาติ 1 เสียง รวมสูงสุด 6 เสียง ยังขาดอีก 3 เสียง ยังไม่นับพรรคเล็กแปรพักตร์ หรือเล่นตัวขอกล้วย แต่ถึงนาทีนั้น ถ้าเสียงรัฐบาลใกล้เคียง 260 เสียง ราคากล้วยก็จะดิ่งอยู่แล้ว เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วย 

ตัวเลข 260 เสียง แม้จะดูดีสำหรับนายกฯ แต่ก็น่ากลัวหากภูมิใจไทยพลิกขั้ว ตาม "แผนลับ...สลับขั้ว" ที่ "ข่าวข้นคนข่าว" เคยสรุปรวบรวมไว้ ฉะนั้นบรรยากาศ ณ ปัจจุบัน รัฐบาลจึงอาจจะไม่ "เซาะกร่อน" เพราะเสียงสนับสนุนหายไป แต่กำลังเผชิญภาวะ "เซาะกราว" ที่พรรคภูมิใจไทยเล่นตัวขี่คอนายกฯได้มากกว่า 

 

คำหวานของภูมิใจไทย จะแลกมาด้วยอะไรบ้าง ถือว่าน่าสนใจ 

 

แต่ช่วงนี้พรรคร่วมรัฐบาลระดมแต่คำหวาน 

 

โปรยยาหอมแรก "เสี่ยหนู" ประกาศ "มาด้วยกันไปด้วยกัน" 

 

สำทับด้วย "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้ำชัด "รัฐบาลอยู่ยาว อยู่จนกระทั่งล้ม"  

 

ขณะที่ จุรินทร์ หัวหน้าค่ายพรรคสีฟ้า ยืนยัน "รู้หน้าที่ดี พรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในระบบรัฐสภา มีหน้าที่ต้องสนับสนุนรัฐบาล...อย่ากังวลกับประชาธิปัย์

 

นอกจากนี้ วราวุธ ศิลปอาชา "เราอยู่กับรัฐบาลตั้งแต่เริ่มจนจบ เราทำงานด้วยกัน ลงเรือร่วมกันแล้ว ต้องส่งเรือให้ถึงฝั่ง...เพลงเลือดสุพรรณฯ มาด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย ฉะนั้นเมื่อมาด้วยกันแล้ว ก็ต้องเดินทางด้วยกันต่อไป”

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมทุกพรรคจึงพร้อมใจกันสนับสนุน "ลุงตู่" และขับเคลื่อนรัฐนาวาให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งสามารถสรุปเหตุผลที่เป็นเบื้องหลังได้ดังนี้ 

 

1.พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังไม่พร้อมเลือกตั้ง 

 

-เนื่องจากคะแนนนิยมของรัฐบาลไม่ค่อยดี ก็จะดึงเรทติ้งทุกพรรคให้ตกลงด้วย 

 

-พรรครัฐบาลส่วนใหญ่ไม่ได้สนับสนุนกติกาเลือกตั้งแบบ "บัตร 2 ใบ" โดยเฉพาะภูมิใจไทย กับชาติไทยพัฒนา ที่แสดงตัวชัดเจน

 

-พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเป็นผู้นำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็น "บัตร 2 ใบ" แต่สถานการณ์ขณะนี้ ก็ยังไม่พร้อม สังเกตจากปัญหา "เลือดเก่าไหลออก" - "เลือดใหม่ก็ยังไม่ค่อยไหลเข้า" ยกตัวอย่างเลือดเก่าไหลออก เช่น นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ถาวร เสนเนียม ถวิล ไพรสณฑ์ และ สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ 

 

-พรรคใหญ่บางพรรคก็ยังไม่อยากยุบสภา เพราะมีผลประโยชน์อยู่ในรัฐบาล ได้คุมกระทรวงที่ต้องการแบบเต็มๆ กระทรวง ทั้งรัฐมนตรีว่าการ และช่วยว่าการ โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ แม้จะล้างไพ่ใหม่ ก็อาจไม่ได้คุมกระทรวงเกรดเอบวกแบบนี้ จึงอยากอยู่กับรัฐบาลนี้ไปจนสุดทาง ไม่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอน 

 

แม้พรรครัฐบาลจะสมัครสมานสามัคคี สงบศึกในชั่วคราว บางพรรคก็ซ่อนดาบในรอยยิ้ม หรือสามัคคีกันด้วยความจำเป็น แต่ต้องยอมรับว่าเสียงที่ผันแปร กลายเป็น "งูเห่า" ที่แว้งกัดรัฐบาล ไม่ใช่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลกลุ่มนี้ แต่เป็น 

 

-กลุ่มผู้กองธรรมนัส ที่มีแนวโน้มพลิกขั้ว 

 

-ส.ส.พรรคเล็ก ที่ไม่เป็นเอกภาพ