ทั้งที่จริงๆ ทางออกของ "บิ๊กตู่" ก็ยังมีอยู่เหมือนกัน เพียงแต่จะเลือกออกทางนั้นหรือไม่ และคนเกี่ยวข้องซึ่งเป็นเงื่อนไขต่างๆ จะยอมลดตัวเองเพื่อให้นายกฯได้ไปต่อหรือเปล่า
ทางออกของนายกฯ มีดังนี้
1.การขับเคลื่อนงานทางการเมืองของ "กลุ่ม 6 รัฐมนตรี" ตามที่ "เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน หนึ่งในกลุ่ม 6 รัฐมนตรีที่สนับสนุนนายกฯ โพสต์ข้อความเอาไว้เมื่ออวาน
รัฐมนตรีเฮ้ง โพสต์ภาพนั่งประชุมในสภาฯ ท่ามกลางมวลมิตร และบอกว่า "มิตรภาพที่ดี ไม่คิดคด สำคัญกว่าอื่นใดในโลก" ไม่แน่ใจว่าข้อความนี้สื่อถึงใครหรือไม่
ขณะเดียวกัน ยังบอกว่า "สถานการณ์บางช่วงบางตอน อาจทำให้เราต้องเหนื่อยล้าหมดพลังไปบ้าง แต่ความเหนื่อยล้า จะไม่อยู่กับเรานานเกินไป ขอแค่มีสติคิดดีทำดีและแก้ไข แล้วขวากหนามที่เคยทิ่มแทงก็จะอันตรธานหายไป อะไรดีๆ ก็จะเข้ามา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศชาติมีจริง ฝนตกก็ต้องมีหยุด ฟ้ามีมืดก็ต้องมีสว่าง ขอให้พรรคพลังประชารัฐยึดมั่นในอุดมการณ์ มีความสามัคคี ทุกอย่างก็จะไปสู้เป้าหมายที่วางไว้คือ พี่น้องประชาชน"
หากถอดรหัสจากโพสต์ของรัฐมนตรีเฮ้ง แสดงว่ายังมีความพยายามพลิกเกมกันอยู่ เพียงแต่ต้องเร่งสยบความเคลื่อนไหวของพรรคเล็กให้มั่นคงในการสนับสนุนรัฐบาล เพราะสถานการณ์ล่าสุด แม้จะรวมตัวเลข ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย กับกลุ่ม 16 ที่ ส.ส.เต้ มงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ เพิ่งก่อตั้งขึ้น เข้าด้วยกัน ฝ่ายรัฐบาลก็ยังมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ อยู่ 2 เสียง
ฉะนั้นทางออกจึงต้องดึงพรรคเล็กกลับมา และให้ยึดมั่นสนับสนุนรัฐบาล เช่น มอบตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับตัวแทนพรรคเล็ก เป็นต้น
2.นายกฯอาจต้องปรับคณะรัฐมนตรีขนานใหญ่ เพื่อดึงตัวแทนของกลุ่มผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งขณะนี้ไปตั้งมั่นอยู่ที่พรรคเศรษฐกิจไทย เข้ามาด้วย เพื่อแลกกับการสนับสนุนรัฐบาลต่อไป แล้วให้ "พี่ใหญ่" อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปเคลียร์กับผู้กองธรรมนัส
แต่ปัญหาก็คือ นายกฯจะยอมทำหรือไม่ เพราะเท่ากับ "ยอมตามคำขู่" ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาว่า ฝ่ายผู้กองธรรมนัสจะรับเก้าอี้หรือไม่ เพราะข่าวล่าสุดค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่ต้องการเก้าอี้รัฐมนตรีแล้ว แต่ต้องการล้มนายกฯเพื่อล้างไพ่ใหม่เลยมากกว่า
3.นายกฯต้องเคลียร์ใจกับ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อให้ความแข็งแกร่งและความเป็นหนึ่งเดียวกันของ "3ป." กลับคืนมา
4.นายกฯต้องเคลียร์กับพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ร่วมรัฐบาลกันต่ออย่างราบรื่น แต่ต้องใช้เงื่อนไขอะไรไปคุย เป็นเรื่องที่น่าจับตาอย่างยิ่ง
จะว่าไปรัฐบาลยังมีเมกะโปรเจคมูลค่ามหาศาลร่วมกันอยู่ คือ โครงการขุดคลองไทย ซึ่งรัฐบาลจีนให้การสนับสนุน และคนใกล้ตัวนายกฯ หลายคนก็ผลักดันอยู่ ขณะที่รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย สนใจโครงการ "แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง" เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคใต้เชื่อมโยงสองฝั่งทะเล คือ อ่าวไทย-อันดามัน โดยไม่ต้องขุดคลองไทย
ปัญหาคือ จะจูนความเห็นให้ตรงกันได้หรือไม่ หรือผู้อำนาจจะขยับอย่างไร ถือว่าน่าสนใจ และนายกฯยังเหลือเวลาอีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น เพราะว่ากันว่าเดือนพฤษภาคม น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของนายกฯ เนื่องจากต้องเผชิญกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเปิดสมัยประชุมสภา