10 กุมภาพันธ์ 2565 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการโหวตร่างกฎหมายของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ที่เห็นด้วยกับฝ่ายค้านวานนี้ (9ก.พ.) นั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งประเมินดูแล้วไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง และเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นทางการเมืองที่จะต้องมาโหวตให้ฝ่ายค้าน
ส่วนกระแสข่าวพรรคเศรษฐกิจไทย มีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงกระแสข่าว แม้จะมีความเป็นไปได้ แต่ประเมินสถานการณ์ขณะนี้ที่พรรคพลังประชารัฐแตกออก เชื่อว่าไม่มีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะต่อมีการยกเก้าอี้ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการ 2-3 ตำแหน่ง ก็คงไม่เอาแล้ว และหากพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล
"เมื่อถึงเวลาลงมติ หากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็คือไม่เอา ไม่จำเป็นต้องบอกว่าอยู่กับฝ่ายค้าน แต่สามารถอยู่ตรงกลางได้ ซึ่งท่าทีและจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทย จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า เพราะเสียงฝั่งรัฐบาลจะลดลง แต่อาจจะมากกว่าฝ่ายค้านนิดหน่อย" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ส่วนตัววิเคราะห์ว่า รัฐบาลอาจจะต้องไปซื้อคะแนนจากฝ่ายค้าน เพื่อหวังรักษาเสถียรภาพให้อยู่รอดต่อไปได้ โดยกลุ่ม ส.ส. ที่อาจจะได้เป็นแค่สมัยนี้ ก็อาจจะเลือกรับประโยชน์แลกกับการโหวตสนับสนุน ในส่วนของพรรคเสรีรวมไทย ได้มีการตรวจสอบอยู่ตลอด และเห็นว่าประเทศไทยวนอยู่แบบนี้ มีแต่การแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์
สำหรับการรวมตัวของพรรคเล็ก 16 คนนั้น มองว่าเป็นการรวมตัวส่งสัญญาณเพื่อต่อรอง หรือเรียกรับผลประโยชน์ทางการเมือง เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ พรรคเล็กจะเสียเปรียบ อาจไม่ได้กลับมาอีก แม้พรรคเสรีรวมไทยเสียเปรียบ แต่จะเดินหน้าตามกติกาด้วยความสุจริต และยังให้ประชาชนศรัทธาในพรรคการเมืองนี้อยู่