สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เริ่มปรากฏคำประกาศของครอบครัวตัดขาดกับลูก หลาน และเหลน ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารอย่างเปิดเผย ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ของทางการวันละ 6-7 ครอบครัวในแต่ละวันนับตั้งแต่เดือน พ.ย. เป็นต้นมา หลังจากกองทัพประกาศว่าจะเข้ายึดทรัพย์สินของฝ่ายต่อต้าน และจับกุมผู้ให้ที่พักอาศัยแก่ผู้ประท้วงและบ้านเรือนหลายสิบหลังถูกบุกค้นในเวลาต่อมา
ลิน ลิน โบ โบ อดีตเซลส์แมนขายรถยนต์ ซึ่งเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารเป็นหนึ่งในหลายคนที่ถูกตัดขาดจากครอบครัว และปรากฏในคำประกาศเกือบ 570 รายที่รอยเตอร์ตรวจพบ
ซาน วิน และ ทิน ทิน โซ ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ The Mirror ในเดือน พ.ย. ปีที่แล้วระบุว่า "เราประกาศตัดขาดกับ ลิน ลิน โบ โบ เพราะเขาไม่เคยฟังความต้องการของครอบครัว"
หนุ่มวัย 26 ปี ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ที่ชายแดนไทยซึ่งเขาอาศัยอยู่ในเวลานี้ หลังจากหนีภัยออกจากเมียนมาว่า แม่ของเขาบอกว่า ต้องประกาศตัดขาดกับเขา หลังจากทหารไปที่บ้านเพื่อตามหาตัวเขา และอีกไม่กี่วันต่อมา เขาต้องร้องไห้เมื่ออ่านเจอประกาศในหนังสือพิมพ์
เขาบอกอีกว่า เพื่อน ๆ พยายามปลอบใจว่า เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ครอบครัวต้องทำอย่างนั้นภายใต้แรงกดดัน แต่เขาก็ยอมรับว่า "เรื่องนี้ทำให้ผมใจสลาย"
การพุ่งเป้าครอบครัวของฝ่ายต่อต้านเป็นกลวิธี ที่กองทัพเมียนมาเคยใช้ในช่วงการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารในปี 2531 และปี 2550 แต่ใช้บ่อยมากขึ้นนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564
ก่อนหน้านี้โฆษกกองทัพเคยแสดงความเห็นต่อคำประกาศตัดขาดกับสมาชิกในครอบครัวเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว คนที่ลงประกาศดังกล่าวยังอาจถูกดำเนินคดีได้ หากพบว่าให้การสนับสนุนพวกต่อต้านรัฐบาลทหาร
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามีประชาชนเสียชีวิตเกือบ 1,500 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประท้วง และอีกเกือบ 12,000 คนถูกจับกุม