svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จุรินทร์"เตือนกมธ.สอบ"ดร.เอ้"ระวังกลายเป็นเรื่องการเมือง

05 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จุรินทร์" เตือน กมธ.ปปช. ระวังการนำกระบวนการตรวจสอบ"ดร.เอ้" ที่ยังไม่มีข้อสรุปออกมาเปิดเผย ชี้นอกจากกลายเป็นเรื่องการเมืองแล้วยังเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย 

5 กุมภาพันธ์ 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณี ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวว่า ถูก กมธ. ปปช.ตรวจสอบ ว่า เรื่องนี้ความจริง ดร.เอ้ ก็ได้ตอบคำถามสื่อไปแล้วว่า พร้อมที่จะมีการให้ตรวจสอบ และมั่นใจว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และตนเชื่อว่าผู้ที่ติดตามสถานการณ์การเมือง ก็คงพอคาดเดาได้ว่าการยื่นเรื่อง หรือการดำเนินการของ กมธ. ปปช. ของสภาผู้แทนราษฎร ถ้า ดร.เอ้ ไม่ประกาศตัวเป็นผู้ว่าฯ กทม. เหตุนี้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น เชื่อว่าคนที่ติดตามการเมือง ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นเรื่องทางการเมือง หรือไม่เป็นเรื่องทางการเมือง 

 

"สิ่งที่ กมธ. จะต้องระมัดระวังก็คือ เรื่องของการที่ถ้ามีการดำเนินการ ก็จะต้องระมัดระวังในการนำรายละเอียดหรือกระบวนการตรวจสอบที่ยังไม่มีข้อสรุปออกมาเปิดเผย เพราะอันนี้เราก็ต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็น กมธ.ชุดไหนก็ตาม เพราะมันอาจจะกลายเป็นเรื่องทางการเมือง และขณะเดียวกันก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายได้" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว 

ส่วนจะเป็นการใช้ตำแหน่ง ส.ส. เพื่อให้คุณ ให้โทษกับผู้สมัครพรรคอื่นหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ขอไม่ตอบตรงนี้ แต่คือสิ่งที่ตนเตือนว่าก็ต้องระมัดระวัง อย่าให้กลายเป็นการดิสเครดิตกันในทางการเมือง เพราะใน กมธ. ก็มีสมาชิกพรรคการเมืองหลายพรรคอยู่ในนั้น และแจ้งความจำนงที่จะเป็นคู่แข่งกับ ดร.เอ้ ด้วย ทั้งคงไม่ต้องให้ผ่ายกฎหมายพรรคเข้าไปดูแล เพราะคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

 

สำหรับกรณีที่ส.ส.เข้าร่วมประชุมสภาฯ แต่ไม่แสดงตนนั้น อยากให้ทุกฝ่ายต้องระมัดระวัง อย่างน้อยที่สุดในส่วนของรัฐบาล ตนคิดว่าพรรคแกนหลัก คือ พรรคพลังประชารัฐจะต้องเป็นหลักเสียก่อน เพราะนั้นกระบวนการดำเนินการภายในของพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีความสำคัญมาก ตนไม่ได้ไปวิจารณ์อะไร เพียงแต่ให้ความเห็นในลักษณะที่ปรารถนาจะเห็นงานในสภาฯ และในคณะรัฐบาลเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่นและเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่สภาล่มบ่อยๆ จะส่งผลเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก่อนที่กฎหมายลูกจะสำเร็จหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพียงแต่มันก็ไม่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อสภา และรวมทั้งในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และอาจมีผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ทางการเมืองของรัฐบาลด้วย ตนถึงเรียนว่าพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำก็จะต้องรีบกลับไปช่วยดูเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

logoline