2 กุมภาพันธ์ 2565 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิ์วงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม. และประชุมผ่านระบบทางไกล วานนี้(1 ก.พ.) ว่า
สถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์ Omicron พบว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่าปลายเดือนมกราคม การแพร่ระบาดในประเทศไทยจะเป็นสายพันธุ์ Omicron เกือบทั้งหมด โดยในวันนี้ (2 ก.พ.) สำนักอนามัยจะประชุมร่วมกับสถานศึกษาทุกสังกัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงแนวทางมาตรการป้องกันในสถานศึกษา รวมทั้งซักซ้อมแผนเผชิญเหตุกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ ที่ประชุมกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงแนวทาง การนิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสใกล้ชิด ได้แก่ ผู้ที่มีพฤติกรรมการสัมผัสอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่ง นับตั้งแต่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ยืนยัน โดยไม่ใส่ PPE ตามมาตรฐานตลอดช่วงเวลาที่มีการสัมผัส ตั้งแต่วันที่เริ่มป่วย หรือก่อนมีอาการประมาณ 1-2 วัน ประกอบด้วย
1.อยู่ใกล้หรือมีการพูดคุยกับผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ยืนยัน ในระยะ 2 เมตร เป็นเวลานานกว่า 5 นาที หรือถูกไอจามรดจากผู้ป่วย
2.อยู่ในบริเวณที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเทมากนัก ร่วมกับผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ยืนยันเป็นเวลานานกว่า 30 นาที โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสใกล้ชิด ต้องตรวจATK ในวันที่ 5 หรือ 6 และวันที่ 10 หากผลเป็นลบ ต้องกักตัวจนครบ 10 วัน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ กรมควบคุมโรค โดยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง จะให้บริการตรวจ RT PCR ครั้งที่ 2 สำหรับชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในระบบ Test & Go ในวันที่ 5 หรือ 6 หลังเดินทางถึงประเทศไทย ณ จุดตรวจบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ โดยสามารถจองคิวเพื่อรับบริการล่วงหน้า (จำกัดวันละ 100 คน) ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 18 ก.พ. 65 ในวันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 09.00-15.00 น.
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันที่ 1 ก.พ. ในกทม.จำนวน 1,254 คน เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม จำนวน 28,718 ราย ภาพรวมการให้บริการวัคซีนวานนี้ (31 ม.ค.65) มีผู้รับวัคซีนเข็มที่1 จำนวน 1,061 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 1,089 โดส เข็มที่ 3 จำนวน 17,530 โดส และเข็มที่ 4 จำนวน 3,049
ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี กรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรรวัคซีนลอตแรก สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เมื่อวันที่ 30 ม.ค.65 โดยโรงพยาบาลแจ้งยอดกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค จำนวน 54,833 คน และจะได้รับจัดสรรเป็นรายสัปดาห์ จนครบตามเป้าหมาย
ขณะนี้ได้กระจายวัคซีนให้โรงพยาบาลที่มีกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค แล้ว 22,170 โดส จำนวน 67 แห่ง นอกจากนี้สำนักอนามัยอยู่ระหว่างรวบรวมผลการสำรวจจำนวนนักเรียนอายุ 5 ปี ถึง 1 ปี 11 เดือน 29 วัน ในระบบการศึกษา ที่ประสงค์รับวัคซีนไฟเชอร์ (ฝาสีส้ม) เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีน หลังจากดำเนินการในกลุ่มเด็กที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคแล้ว