ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีน้ำมันดิบรั่วไหล โดยข้อความระบุว่า
สรุปสถานการณ์ให้เพื่อนธรณ์ จากภาพดาวเทียม GISTDA และจากคณะประมงลงพื้นที่ ดังนี้ครับ
น้ำมันถึงฝั่งแล้ว แบ่งเป็น 2 ส่วน กรอบเหลืองคือเข้มข้น กรอบแดงคือเจือจางกว่า
คำว่าสีดำเข้มอาจหมายถึงการแปลภาพ แต่ในพื้นที่จริง ผมใช้โดรนสำรวจแล้ว ไม่ได้เป็นแพสีดำ แต่เห็นเป็นเหลื่อมๆ
เมื่อน้ำมันถูกคลื่นพัดเข้าหาฝั่ง จะรวมจับตัวกันแน่นขึ้น กลายเป็นสีดำ ทั้งเป็นคราบและเป็นหยด
เมื่อน้ำพัดขึ้น คราบน้ำมันเข้าตามน้ำ เมื่อน้ำลง บางส่วนตกค้างบนหาด บางส่วนลงกลับไปในทะเล พอน้ำขึ้นก็กลับมาใหม่
วนไปเวียนมาแบบนี้ ขณะที่คราบน้ำมันในทะเลก็เข้ามาสมทบ
คราบน้ำมันพบตามชายหาดยาวหลายกิโลเมตร มากน้อยต่างกัน ผมแบ่งง่ายๆ เป็น 4 ระดับ ดังนี้ (ดูภาพประกอบ)
แดงเข้ม - ใกล้หน้าวัดช้างชน น้ำมันลงมารวมตามแอ่งทราย ตอนนี้พื้นที่แบบนี้ยังจำกัดอยู่ 100 เมตร
เป็นบริเวณที่มีการเก็บน้ำมันตามภาพข่าว
แดง - เป็นปื้นใหญ่ๆ เห็นชัด พบอยู่ใกล้กับเขตแดงเข้ม ระยะประมาณ 100-200 เมตร
ส้ม - เป็นคราบหนาแน่นหน่อย ยาว 1-2 กิโลเมตรหรือกว่านั้น ยังประเมินไม่ได้
เหลือง - คราบจางๆ เป็นหยดเรียง อันนี้พบเกือบตลอดแนวจากลานหินไปทางก้นอ่าว ไม่มากแต่ยาว
การเคลื่อนของคราบน้ำมันเลื่อนไปเรื่อยๆ ทางตะวันออก พื้นที่จับตามองคือจากสีเหลืองจะแรงขึ้นเป็นสีส้ม
สีแดงกับสีแดงเข้มอาจเกิดเฉพาะจุด แต่จุดเดิมอาจมีเพิ่ม อาจเกิดจุดใหม่ โดยเฉพาะชายฝั่งที่เป็นแอ่ง/อ่าว
สัตว์ที่ได้รับผลเริ่มเห็นแล้ว เดี๋ยวรอโพสต์ต่อไป
ตอนนี้บอกได้แค่นี้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะตามต่อ
กลิ่นน้ำมันก็ฟุ้งมาก แต่ยังไม่ถอยครับ