เกษตรกรฮ่องกงเผาดอกไม้ทิ้ง หลังยอดขายตรุษจีนตกฮวบ

เหลียง ยัต-เซิน วัย 70 ปี เจ้าของสวนดอกไม้ในเขตหยุนหลง แถบชานเมืองของฮ่องกง ปลูกดอกไม้ไว้ถึง 2 แสนต้นเพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีทั้งดอกแกลดิโอลัส ดอกบัว และดอกทิวลิป แต่ปรากฏว่ามียอดสั่งซื้อเพียงครึ่งเดียว

เหลียงบอกด้วยความหดหู่ใจขณะยืนใกล้แปลงดอกไม้ที่กำลังจะเผาทิ้งว่า "ดอกไม้เหล่านี้สวยงามแข็งแรงดี ปกติแล้วผมจะเก็บและนำไปส่งที่ตลาด ดูซิมันช่างสวยงามเหลือเกิน"  

เขาบอกด้วยว่า เพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้ปีนี้ไม่มีการเปิดตลาดดอกไม้ และเมื่อดอกไม้บานเต็มที่แล้ว ทำให้ต้องกำจัดทิ้งด้วยการเผา 

แม้ฮ่องกงประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดเกือบตลอดทั้งปี 2564 แต่เฉพาะในเดือน ม.ค.ปีนี้ มีผู้ติดเชื้อภายในชุมชนแล้วกว่า 600 คน เพิ่มขึ้นสูงมากจากจำนวน 2 คน ในเดือน ธ.ค. เป็นเพราะโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก 

และเมื่อวันที่ 14 ม.ค. รัฐบาลมีคำสั่งให้ปิดตลาดจำหน่ายดอกไม้สำหรับเทศกาลตรุษจีนใน 15 เขตทั่วฮ่องกง และจำกัดการจราจรในเขตพื้นที่ที่เป็นแหล่งค้าส่ง

เหลียง ซึ่งเป็นเกษตรกรรุ่นที่สองของครอบครัว สามารถขายดอกไม้บางส่วนให้กับลูกค้าโดยตรงที่ฟาร์ม ซึ่งมีเขา ภรรยา และลูกจ้างอีก 3 คนช่วยกันดูแล 

แม้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ถือใบอนุญาตจัดงานเทศกาลจำหน่ายดอกไม้ช่วงตรุษจีน แต่เกษตรกรอย่างเหลียงกลับไม่ได้รับเงินเยียวยาใดๆ

เขาบอกว่า "มันเป็นภาระหนักอึ้งที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ ผมจะไม่มัวบ่นว่ามันแย่แค่ไหน "ผมต้องมีกำลังเดินหน้าต่อไป และหวังว่า พรุ่งนี้จะดีขึ้น"