กองทัพเรือสหรัฐฯ พยายามกู้ซากเครื่องบินสเตลธ์ F-35 ที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ ที่ชนด้านฟ้าของเรือบรรทุกเครื่องบิน USS คาร์ล วินสัน (USS Carl Vinson) จากความผิดพลาดขณะร่อนลงจอดเมื่อวันจันทร์ (24 มกราคม) ทำให้ตกลงไปในทะเลจีนใต้ ส่วนนักบินดีดตัวออกมาได้ ลูกเรือบนเรือบาดเจ็บ 6 นาย และตัวเรือเสียหายเล็กน้อย
นักวิเคราะห์ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะนำไปสู่ปฏิบัติการกู้ซากเครื่องบินที่ซับซ้อนและถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากจีน โดยเรือที่ใช้ค้นหาซากเครื่องบินของสหรัฐฯ ต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ กว่าจะเดินทางถึงจุดที่เครื่องบินตก ส่วนการกู้ซากอาจต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน ด้านอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพเรือให้ความเห็นว่า อาจเกิดปัญหาร้ายแรงกรณีจีนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในน่านน้ำเป็นพื้นที่ 3.3 ล้านตารางกิโลเมตร อ้างว่า "ยุทโธปกรณ์ของต่างชาติกำลังเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในน่านน้ำของตน" ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์มองในมุมลบว่า จีนอาจยอมเสี่ยงทางการเมือง และยอมกระทบกระทั่งกับสหรัฐฯ ด้วยการเข้าไปกู้ซาก
สเตลธ์ F-35 (F-35 Lightning II) ผลิตโดยล็อกฮีท มาร์ติน เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 มี 1 ที่นั่ง และ 1 เครื่องยนต์ ที่ได้ชื่อว่าก้าวหน้าและแพงที่สุดในโลก ลำละ 100 ล้านดอลลาร์ (3,300 ล้านบาท) ที่สามารถใช้เพื่อการสนับสนุนทางอากาศ ทิ้งระเบิดทางยุทธวิธีและการป้องกันทางอากาศ โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น คือ แบบขึ้น-ลงปกติ แบบขึ้น-ลงแนวในดิ่ง และแบบที่ใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบิน