เทสล่าคาดปีนี้กำไรเพิ่มกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

ไม่กี่ชั่วโมงหลังการคาดการณ์จากอีลอน มัสค์ CEO ของเทสล่า ส่งผลให้ราคาหุ้นของเทสล่าเพิ่มขึ้น 1.6 เปอร์เซ็นต์และยังเป็นผลสืบเนื่องจากการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกซึ่งผลประกอบการสูงเกินกว่าที่ตลาดหุ้นวอลสตรีทคาดการณ์ไว้

แต่ยังต้องระวังเรื่องซัพพลายเชนซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่มาตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งเทสล่าก็หนีไม่พ้นเรื่องการขาดแคลนอะไหล่หรือชิ้นส่วน นอกจากนั้นเทสล่ายังเผชิญกับความท้าทายจากแผนการเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่อีก 2 แห่งในปีนี้เนื่องจากชิพและชิ้นส่วนต่างๆยังขาดตลาด รวมถึงการทดสอบหรือการใช้แบตเตอรี่และเทคโนโลยีใหม่ๆด้วย
 
 

อีลอน มัสค์ กล่าวว่าทางบริษัทจะยังไม่เปิดตัวเทสล่ารุ่นใหม่ในปีนี้แต่หวังจะเปิดตัว Cybertruck , Semi และ Roadster ได้ในปีหน้า

ข้อมูลจาก Refinitive ชี้ว่ารายได้ของเทสล่าในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นเป็น 17,720 ล้านดอลลาร์จากปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 10,740 ล้านดอลลาร์ และยังสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่มองว่ารายได้จะอยู่ที่ 16,570 ล้านดอลลาร์
 
เทสล่าได้รับเสียงชื่นชมว่าสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆในเรื่องซัพพลายเชนด้วยการใช้ชิพหายากในปริมาณที่น้อยกว่าและมีการเขียนซอฟต์แวร์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วให้กับลูกค้าได้มากเป็นประวัติการณ์

ถึงอย่างนั้นเทสล่าก็กำลังเรียกคืนรถโมเดล 3 และโมเดล S มากกว่า 475,000 คันเพื่อแก้ปัญหากล้องมองด้านหลังและลำตัวรถที่มีความเสี่ยงจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้