เป็นเรื่องราวดราม่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ภายหลัง “ทิดไพรวัลย์” หรือไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ที่ลาสิกขาออกมาจากวงการ “ผ้าเหลือง” ก่อนผันตัวเข้าสู่วงการบันเทิงแบบเต็มตัว โดยเฉพาะการรับรีวิวสินค้าต่างๆ ที่ช่วงหลังมีการโพสต์ภาพคู่ "มินยง” หนุ่มหน้าใสชาวเกาหลีอยู่บ่อยครั้ง จนแฟนคลับพากันวิพากษ์วิจารณ์
กระทั่ง “ไพรวัลย์” โพสต์ระบายความในใจว่า เพจเฟซบุ๊กเปรียบเสมือนบ้าน ที่ปล่อยให้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาแวะเวียน ซึ่งบ้านหมายถึงพื้นที่ความสุข และตอนนี้ “มินยง” คือความสุขและรอยยิ้มของตนเอง จึงอยากพูดตรงๆ ถึงบุคคลบางกลุ่มว่า “ผมไม่สนใจเลย หากใครจะผิดหวังในตัวผม จะเลิกชื่นชอบ เลิกติดตาม เพราะผมเป็นอย่างที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้”
เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีสมาชิกโซเชียลเข้ามาแสดงความเห็นหลากหลาย จนแฮชแท็กคำว่า “#ไพรวัลย์” ขึ้นมาติดเทรนด์อยู่ในเวลานี้
ล่าสุด “ไพรวัลย์” ไลฟ์สดโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเองเป็นคนหนึ่ง ที่มองเห็นความน่ารักในตัวทุกคนได้ รวมถึง “มินยง” ซึ่งเขาบอกว่า ตัวเขาไม่หล่อ แต่ตนเองบอกว่าเขาเป็นคนหล่อ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่นำมาลงเพจบ่อยๆ เพราะอยากทำให้เขารู้สึกว่า เขาน่ารักและมีคนที่พร้อมจะชื่นชมอีกจำนวนมาก สุดท้ายเป็นอย่างที่คิดจริงๆ
“ใครจะว่าผมอวดนู้นนี่นั่น ผมไม่มีปัญหา แต่ผมบอกไปแล้ว มินยงคือความสุข ผมอยากให้เขามีความสุข ผมมีความสุข ให้เขามีความสุข เวลาเขาอยู่กับผม ผมหยอกเขา เขามีความสุข”
ส่วนตัวรู้สึกเศร้าใจ เมื่อเห็นคอมเมนท์จากคนบางกลุ่ม ที่มาจากกลุ่มที่ถูกสังคมบูลลี่ แต่กลุ่มเหล่านี้กลับมาโจมตีตนเอง เช่น ใส่ร้ายว่ามีการเปย์เงิน “มินยง” ซึ่งตรงนี้ดูถูกตนเองยังไม่เท่าไหร่ แต่ดูถูก “มินยง” เขาด้วย
“มินยงเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ผมต้องขอความเป็นธรรมให้น้องเขา อยากตอนนี้ ช่วยดูเสื้อที่น้องเขาใส่ก่อนว่ายี่ห้ออะไร ยี่ห้อ BALENCIAGA ตัวนี้ราคา 5 หมื่นบาท ผมใส่เสื้อราคาพันเดียว มินยงใส่เสื้อราคา 5 หมื่นบาท สภาพเอาอะไรไปเปย์ ฉันต้องมีเงินขนาดไหน ถึงจะซื้อเสื้อตัว 5 หมื่นบาทให้ผู้ชายได้”
ส่วนกรณีที่เพจ “จ๊อกจ๊อก” กล่าวอ้างเรื่องนำคำศัพท์คนอื่นมาใช้ แล้วไม่ให้เครดิตนั้น ทาง “ไพรวัลย์” บอกว่า คำว่า “สภาพ” ตนเองได้ฟังมากจาก “พี่ลินดา” และไม่เคยพูดว่าเป็นคำของตนเอง โดยทุกครั้งที่ตอบคำถามเกี่ยวกับความหมายของคำว่า “สภาพ” ตนเองก็ตอบไม่เหมือนกัน เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าความหมายคำนี้คืออะไร
อย่างไรก็ตาม หลัง “ไพรวัลย์” ไลฟ์สดชี้แจงในหลายๆ เรื่อง แต่สมาชิกโซเชียลในทวิตเตอร์ยังไม่หยุดตั้งคำถาม โดยเฉพาะเนื้อหาในเพจ ที่แตกต่างจากสมัยเป็นพระที่ให้แง่คิดคนฟัง รวมถึงกรณีที่ชอบนำโพสต์ “คนไม่เห็นต่าง” นำมาแขวนประจานหน้าเพจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง