22 มกราคม 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ทางการเมืองล่าสุด ว่า พรรคไม่ได้กังวล เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค มีความมุ่งมั่นนำพาพรรคทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมาย คือ สร้างความยั่งยืนให้กับประชาชนและประเทศ ซึ่งพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองไม่ใช่พรรคที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ
"นายจุรินทร์ ได้ย้ำกับบุคลากรของพรรคเสมอ ให้ตั้งใจทำงานในทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ให้กับประชาชนและประเทศ ยึดหลักความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ผ่านมาจะเห็นผลการทำงานเป็นที่ประจักษ์การทำหน้าที่ในรัฐบาลมีการผลักดันเกิดความสำเร็จในหลายโครงการ คิดและทำเพื่อความยั่งยืนของประชาชนและประเทศ บทบาทในสภา ส.ส.ทุกคนก็ทุ่มเทตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่" นายราเมศ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พรรคไม่ขอก้าวล่วงไปวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาในพรรคการเมืองอื่น ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ส่วนจะมีการยุบสภาหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี เพียงแต่พรรคต้องการเร่งผลักดันพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด การเตรียมการในเรื่องพรรคการเมืองก็สำคัญหากร่างแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองผ่าน
สำหรับในส่วนของเขตเลือกตั้ง 400 เขต พรรคการเมืองก็ต้องมีการเตรียมการในเรื่องความพร้อมของสมาชิกพรรคและตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหรือสาขา ในส่วนของพรรคเมื่อมีเขตเลือกตั้งเพิ่มมา 50 เขต จากฐานสมาชิกพรรคพร้อมเต็มที่ ในส่วนของตัวแทนพรรคหรือสาขามีปรับเปลี่ยนอีกบางส่วน เตรียมความพร้อมไว้ครบถ้วน เชื่อว่าการยุบสภาไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เพราะยังมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญสองฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งต้องผ่านสภาไปก่อน
โฆษกพรรค กล่าวต่อว่า ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นปัญหาได้ หากมีการยุบสภาในช่วงที่กฎหมายยังไม่ผ่าน จะให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเป็นระเบียบ ก็อาจจะเป็นปัญหานำไปสู่การตีความได้ เพราะถูกบังคับด้วยรัฐธรรมนูญให้ทำเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณคะแนน รวมไปถึงกระบวนการในทางปฏิบัติของ กกต.
ส่วนผลการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร และ จ.สงขลา ถือว่าเป็นไปตามเสียงของประชาชนที่ไว้วางใจพรรคเช่นเดิม ซึ่งพรรคต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียง เพราะผลการชนะประกอบด้วยหลายปัจจัย แต่สิ่งที่สำคัญที่รับรู้จากความรู้สึกของประชาชนได้ระหว่างการหาเสียง คือ พรรคยังเป็นที่รักและศรัทธาของประชาชน ด้วยผลการทำงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงในอนาคต
"ประชาชนมีความรู้สึกได้ว่าประชาธิปัตย์ คือ สถาบันทางการเมือง เป็นพรรคการเมืองที่พึ่งหวังได้ด้วยความยั่งยืน ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ส่วนที่ตั้งคำถามว่าเหตุใดพรรคพลังประชารัฐแพ้การเลือกตั้ง คงไม่ก้าวล่วงไปตอบแทนพรรคการเมืองอื่น ในส่วนของพรรคก็ตั้งใจทุ่มเททำงานเพื่อตอบแทนบุญคุณประชาชนต่อไปเช่นเดิม ท้ายที่สุดพร้อมทุกสถานการณ์" นายราเมศ ระบุ