ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เผยแพร่แถลงการณ์ระบุว่า เขาได้รับทราบผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกเมื่อเช้าวันอาทิตย์ โดยเขาเข้ารับการตรวจหลังจากมีอาการป่วยเล็กน้อยขณะอยู่ที่บ้าน และแพทย์บอกกับเขาว่า เนื่องจากเขาฉีดวัคซีนครบโดส และได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่อเดือน ต.ค. ทำให้มีอาการป่วยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และเขาขอบคุณที่เป็นเช่นนั้น
เขาแจ้งเรื่องผลตรวจโควิด-19 แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมแล้ว และยืนยันว่า เขาพบกับประธานาธิบดีไบเดนครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. และไม่ได้ไปที่กระทรวงกลาโหมนับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. ซึ่งวันนั้นเขาได้พบเจ้าหน้าที่กระทรวงเพียงไม่กี่คน และทุกคนสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างตลอดเวลา
นอกจากนี้เขาจะกักตัวอยู่ที่บ้านนาน 5 วันตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และจะเข้าร่วมการประชุมหารือสำคัญๆในสัปดาห์นี้ผ่านระบบทางไกล โดยเขายังคงมีอำนาจบัญชาการทุกอย่าง เขายังย้ำว่าการฉีดวัคซีนเป็นข้อกำหนดทางการแพทย์ที่กำลังพลต้องปฏิบัติตาม และเขาเรียกร้องให้ทุกคนที่มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข้ารับการฉีด
ออสตินไม่ใช่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลคนแรกของไบเดนที่ติดโควิด-19 เมื่อเดือน พ.ย. เจน ซากี โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีก็ติดเชื้อโควิด-19 และไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมกับระธานาธิบดีไบเดน
การติดเชื้อของออสตินมีขึ้นในขณะที่ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่กระจายในสหรัฐฯอย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนป่วยโควิด-19 ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ดร.แอนโทนี ฟาวชี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดี กล่าวเตือน ว่า แม้โอมิครอนทำให้มีอาการป่วยน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ยังคงมีความอันตรายที่อาจทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้น เพราะมีผู้ติดกเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอาจทำให้ระบบสาธารณสุขเสี่ยงล่มสลายได้
ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วนผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ 58.6% เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.