พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวถึง สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ตามแนวชายแดน อ.แม่สอดจ. ตาก ว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ยังดีอยู่มีผู้อพยพเข้าไทยประมาณ 4,800 - 5,100 คน และมีผู้แจ้งความประสงค์ ในการขอกลับบางส่วน ซึ่งขณะนี้ยังมีศูนย์พักพิงใน 3 จุด จากเดิม 4 จุด โดยจัดระเบียบให้เกิดความเหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือตามหลักมษุษยธรรม และมีการสั่งการ ให้หน่วยงานต่างๆให้ความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันเป็นไปด้วยดี
ด้านสถานการณ์โควิดในพื้นที่ พลเอกสุพจน์ ระบุว่า มีการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ และกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้ง กระทรวงมหาดไทย และกองกำลังมั่นคง ได้ส่งกองกำลังที่สนับสนุนในพื้นที่จ.ตาก รับผู้ลี้ภัยเข้าสู่การคัดกรองในเบื้องต้น หากพบว่ามีโอกาสติดเชื้อให้แยกไว้ และดำเนินการส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุข
ส่วนการวิพากย์วิจารณ์ เรื่อง การตรึงกำลังในพื้นที่ โดยใช้กำลังจากตำรวจตระเวนชายแดนแทนการใช้กำลังทหาร พลเอกสุพจน์ บอกว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะทหารมีกองกำลังรับผิดชอบชัดเจน และตำรวจตระเวนชายแดน เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังป้องกันชายแดน เพราะฉะนั้นการทำงานเป็นไปอย่างสอดคล้องและเป็นเอกภาพชัดเจน
ความกังวล เรื่อง อาวุธตกเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย เลขาฯสมช. ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำตั้งแต่ต้นแต่มีการประเมิน ว่า จะเกิดการสู้รบรุนแรงในช่วงฤดูหนาว และได้มีการสั่งการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และสิ่งแรกที่รัฐบาลได้สั่งการ คือ ต้องดูแลและปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยเป็นลำดับแรกและให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมและความจำเป็น และเมื่อมีเหตุรุนแรง จังหวัดและหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องมีแผนอพยพประชาชน ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
"หากมีรายงานการเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ก็จะได้ประสานไปยังประเทศเมียนมาทันที ไม่ว่าจะเป็นการประสานตรงไปยังรัฐบาลเมียนมา หรือหน่วยตามแนวชายแดน ซึ่งก็มีข้อกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว ว่า หากประสานแล้วไม่เรียบร้อยจะทำเช่นไร"
วันนี้ ( 27 ธันวาคม 2564 ) ยังมีรายานการสู้รบระหว่างทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.)กองพลน้อยที่ 6 กับทหารรัฐบาลเมียนมา ว่า ทหารเมียนมายังคงปฏิบัติการทางอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะยึดที่มั่นของฝ่ายเคเอ็นยู. เมื่อเวลา 14.20 น.ทหารเมียนมาส่งเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำเข้าโจมตีที่บ้านโซซิเมี่ยน ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ โดยยิงปืนจากทางอากาศลงใส่ที่มั่นฝ่ายกะเหรี่ยง และหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง แต่ไม่มีราษฎรได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพราะหนีภัยสงครามเข้ามาเขตไทยก่อนแล้ว