ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในกฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานอุยกูร์แล้วเมื่อวันพฤหัสบดี หลังกฎหมายผ่านการลงมติเห็นชอบของทั้งสองสภา โดยกฎหมายกำหนดห้ามนำเข้าสินค้าที่ผลิตด้วยการบังคับใช้แรงงานจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เพื่อตอบโต้ที่จีนกดขี่และละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมอุยกูร์อย่างกว้างขวาง และซัพพลายเออร์จะต้องพิสูจน์ว่าสินค้าไม่ได้ผลิตโดยการบังคับใช้แรงงาน
ที่ผ่านมากลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติประเมินว่า มีประชาชนกว่า 1 ล้านคนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆถูกกักขังอยู่ในแคมป์ทั่วซินเจียงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุดโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า กฎหมายใหม่ของสหรัฐฯสร้างความเสื่อมเสียอย่างร้ายกาจให้กับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงและความจริง อีกทั้งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รวมทั้งก้าวก่ายกิจการภายในของจีนอย่างชัดเจนและไม่อาจยอมรับได้ จีนขอประณามและคัดค้านกฎหมายฉบับนี้อย่างหนักแน่น
นอกจากนี้ข้อกล่าวหาบังคับใช้แรงงาน และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในซินเจียงเป็นเพียงคำโกหกอย่างเลวร้ายที่ปั้นแต่งขึ้นโดยฝ่ายต่อต้านจีน ขณะที่การพัฒนาเศรษฐกิจและเสถียรภาพในสังคมในซินเจียงได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และชาวบ้านจากทุกกลุ่มชาติพันธุ์มีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ตามที่ทุกคนได้ประจักษ์
โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยังระบุว่า สหรัฐฯยังคงใช้ประเด็นซินเจียงเพื่อสร้างข่าวลือและปัญหา โดยเป็นการแทรกแซงทางการเมืองและการกดดันทางเศรษฐกิจเป็นหลัก และมุ่งทำลายความมั่งคั่งและเสถียรภาพของซินเจียง ตลอดจนหวังจำกัดการพัฒนาของจีนภายใต้ข้ออ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้จีนยังระบุว่า เป็นเรื่องไร้สาระที่สหรัฐฯ กล่าวหาและให้ร้ายจีน ทั้งที่ตัวเองมีปัญหาใหญ่เรื่องการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน โดยมีคนมากถึง 1 แสนคนถูกลอบพาเข้าสหรัฐฯเพื่อบังคับใช้แรงงานในแต่ละปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และการกระทำต่อชนพื้นเมืองอเมริกันในอดีตเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่เทียบได้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
จีนระบุชัดว่า สหรัฐฯควรเก็บคำว่า "บังคับใช้แรงงาน" และ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"ไว้ใช้กับตัวเอง ส่วนประเด็นซินเจียงไม่ใช่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่เป็นเรื่องการปรามปรามการก่อการร้ายรุนแรงและการแบ่งแยกดินแดน
แถลงการณ์ของจีนยังเตือนสหรัฐฯด้วยว่า การสร้างเรื่องและทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับซินเจียงจะไม่อาจหยุดยั้งการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในซินเจียง หรือ ฉุดรั้งการพัฒนาของจีนได้
นอกจากนี้จีนกล่าวหาว่า การกระทำของสหรัฐฯละเมิดหลักการทางการตลาดและจรรยาบรรณทางการค้าล้วนๆ และยังทำลายอุตสาหกรรมและซัพพลายเชนของโลกทำลายเสถียรภาพการค้าระหว่างประเทศ และทำลายผลประโยชน์และความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯเอง และสุดท้ายก้อนหินที่สหรัฐฯขว้างออกไปจะตกใส่เท้าตัวเอง
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐฯแก้ไขความผิดพลาดโดยทันที และหยุดใช้ประเด็นซินเจียงเพื่อแพร่กระจายคำโกหก แทรกแซงกิจการภายในของจีน และจำกัดการพัฒนาของจีนอีก