มีแค่ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในฮ่องกงเท่านั้น ที่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ ( 19 ธันวาคม ) นับตั้งแต่ที่ปักกิ่งแก้ไขกฎหมายเพื่อลดจำนวนสมาชิกสภาที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และคัดกรองผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีแต่เฉพาะผู้ที่จงรักภักดีต่อจีนเท่านั้นที่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
บาร์นาบัส ฟุ่ง หัวหน้าคณะกรรมาธิการกิจการการเลือกตั้งของฮ่องกง ประกาศเมื่อเช้าวันจันทร์ ( 20 ธันวาคม ) ว่าผู้ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญติ อยู่ที่ "ประมาณ 30.2%"
ครั้งนี้ นับเป็นการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของฮ่องกงนับตั้งแต่กลับมาอยู่กับจีนในปี 2540
ดินแดนกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้เจอการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2557 และ 2562 ที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปราบปราม ตามมาด้วยการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ปิดปากนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านส่วนใหญ่ของเมือง และทำให้คนอื่น ๆ หนีไปอยู่ต่างประเทศ
จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในปีนี้ต่ำกว่าการเลือกตั้งในปี 2555 และ 2559 ที่มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่า 50% อยู่มาก
แต่เดิม การเลือกตั้งมีกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ถูกเลื่อนออกไป โดยทางการอ้างถึงความเสี่ยงด้านสาธารณสุขจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย กล่าวหารัฐบาลว่าใช้โรคระบาดเพื่อชะลอการเลือกตั้ง
งานนี้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ไม่ได้ส่งตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้ง
หลังสรุปผลการเลือกตั้ง สมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งใหม่ของสภานิติบัญญัติชุดที่ 7 ได้แสดงความหวังที่จะปรับปรุงการกำกับดูแลฮ่องกงนี้ให้ดียิ่งขึ้น และให้คำมั่นว่าจะทำหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขาให้เสร็จสมบูรณ์
สมาชิกสภานิติบัญญัติใหม่ของฮ่องกงมีทั้งหมด 90 คน สมาชิก 40 คนเลือกมาโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งเขต , เขตเลือกตั้งตามหน้าที่เลือกมาอีก 30 ที่นั่ง และเขตเลือกตั้งทางภูมิศาสตร์เลือกอีก 20 ที่นั่ง ซึ่งกลุ่มหลังนี้เป็นการเลือกตั้งโดยตรงของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง