svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ประชาชาติ"ก้างขวางคอ"ประชาธิปัตย์"ยึดชายแดนใต้

17 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การเลือกกรรมการบริหารพรรคคนใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างของคประชาธิปัตย์ ยังมีอีก 1 ตำแหน่ง แต่ถูกพูดถึงน้อยกว่า คือ ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค ของ "อันวาร์ สาและ" ส.ส.ปัตตานี 4 สมัย ที่เพิ่งลาออกไปช่วงกลางปี 64 ที่ผ่านมา

โดย "อันวาร์" ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค เพื่อประท้วงพรรคที่ไม่ยอมถอนตัวจากรัฐบาล ทั้งๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำรัฐนาวาแก้ปัญหาโควิดล้มเหลว ทำคนเสียชีวิต วัคซีนไม่ได้ประสิทธิภาพ 

 

ส.ส.ปัตตานี เขต 1 รายนี้ ถือเป็นสายตรง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เหมือนกับ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ที่ผ่านมาจึงเล่นบท "ฝ่ายค้านในรัฐบาล" ร่วมกับ เทพไท เสนพงศ์ และ พนิต วิกิตเศรษฐ์ ทำให้แต่ละคนโดนลดบทบาทในพรรค ส่วน เทพไท ถึงขั้นหลุด ส.ส. แถมยังเสียที่นั่งไปให้กับพรรคพลังประชารัฐด้วย ที่นครศรีธรรมราช

 

แต่ "อันวาร์" ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะในยามที่ประชาธิปัตย์เจอสึนามิที่ภาคใต้ เสียที่นั่งไปกว่าครึ่ง และแพ้เกือบ 100% ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ "อันวาร์" ก็ยังฝ่ากระแสมาได้ และเป็น ส.ส.เพียงหนึ่งเดียวของประชาธิปัตย์ในดินแดนปลายด้ามขวาน

เก้าอี้รองเลขาธิการพรรคที่จะมีการเลือกกันใหม่ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ จะว่าไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับอันวาร์ แล้ว และน่าจะได้คนของ "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" เลขาธิการพรรค เข้าไปแทน ฉะนั้นตำแหน่งที่น่าห่วงจึงไม่ใช่รองเลขาธิการพรรค แต่เป็นเก้าอี้ ส.ส.ของอันวาร์มากกว่า

 

มีข่าวว่าผู้บริหารประชาธิปัตย์ชุดนี้ จะไม่ส่งอันวาร์ในการเลือกตั้งสมัยหน้า แม้ฐานเสียงจะแข็งโป๊ก ฝ่าด่านเข้ามาได้เพียงหนึ่งเดียวก็ตาม เรื่องนี้เจ้าตัวรับรู้ดี และเตรียมหาพรรคใหม่ลงสมัคร โดยเล็งไปที่พรรคประชาชาติ แชมป์เลือกตั้งพื้นที่ชายแดนใต้ เมื่อปี 62

 

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มี 11 เขต ประชาชาติกวาดไป 6 เก้าอี้ คือ เกินครึ่ง เหลือให้พลังประชารัฐ 3 เขต และประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยพรรคละเขตเท่านั้น

 

แต่ข่าวว่าพรรคประชาชาติยังคิดหนัก เพราะคะแนนส่วนตัวของอันวาร์ ไม่เพียงพอที่จะพาตัวเองชนะเลือกตั้งได้ แต่ที่ผ่านมาคว้าชัยมาได้ เพราะคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งฐานเสียงของประชาธิปัตย์ที่ชายแดนใต้ หนาแน่นในเขตเมือง คือ เขต 1 จึงน่าจับตาว่า อนาคตทางการเมืองของอันวาร์ จะเป็นอย่างไร หรือต้องหาพรรคที่ 3 เป็นทางเลือกต่อไป เพราะจะย้ายเข้าค่ายพลังประชารัฐก็ไม่ได้ 

 

 

พูดถึงพรรคประชาชาติ กำลังจะมีการปรับโครงสร้าง และรีแบรนด์พรรคใหม่

 

พรรคประชาชาติ ถูกมองเป็นพรรคท้องถิ่น เป็นพรรคมุสลิม มีฐานเสียงเฉพาะที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหากนับเฉพาะที่ปลายด้ามขวาน ก็ถือว่าเป็นของจริง เนื่องจากกวาดที่นั่ง ส.ส.มาได้ถึง 6 เขต ในพื้นที่ที่มี "ทหาร" เป็นแฟคเตอร์สำคัญ เพราะเป็นพื้นที่ความมั่นคง

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของประชาธิปัตย์ในอดีต ในยุคที่กลุ่มวาดะห์ตกต่ำจากปัญหาที่ก่อขึ้นในรัฐบาลทักษิณ ทั้งเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบ ทำให้ประชาธิปัตย์กวาดเรียบ ส.ส.ชายแดนใต้ ได้ที่นั่งมากกว่า 90% โดยมีฝ่ายความมั่นคงให้การสนับสนุน

 

ส่วนประชาชาติ ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน แต่กลับคว้าชัยมาได้ถึง 6 เก้าอี้จาก 11 เก้าอี้ จึงถือว่าไม่ธรรมดา

 

โจทย์ข้อใหม่ของประชาชาติ คือ

 

1.ขยายที่นั่ง ส.ส.ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้ทั้ง 12 เขต หรืออย่างน้อยต้อง 10 เขตจาก 12 เขตที่จะมีการเพิ่มขึ้นใหม่ จาก 11 เป็น 12 เขตในการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

2.เพิ่มคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อรับมือกับระบบเลือกตั้งบัตรสองใบ โดยจะมีทีมหาเสียงทั้งในส่วนของ ส.ส.เขต และหาคะแนนให้บัตรใบที่ 2 เป็นการเฉพาะ

 

3.ขยายความนิยมของพรรคออกไปนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยชูนโยบายที่แตกต่างจากพรรคอื่น เช่น ดูแลคนชายขอบ เน้นเรื่องสิทธิมนุษยชน ผู้ด้อยโอกาส มุ่งสู่ความเท่าเทียม และหาเสียงแยกเซกเมนท์ เช่น กลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือกลุ่มลูกหนี้ กยศ. ซึ่งพรรคประชาชาติเป็นพรรคแรกที่เคลื่อนไหวแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ. ให้กับนักเรียน นักศึกษา และลูกหนี้วัยทำงานนับล้านคน และได้เสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาฯ เป็นพรรคแรกด้วย ซึ่งกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในเร็ววันนี้

 

"วันมูหะมัดนอร์ มะทา" หัวหน้าพรรคประชาชาติ และแกนนำกลุ่มวาดะห์ ในฐานะ "บ้านใหญ่ยะลา" บอกกับ "ข่าวข้นคนข่าว" ถึงการเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ ซึ่ง "วันนอร์" เชื่อว่าไม่น่าจะเกินเดือนมี.ค. ส่วนในเรื่องบัตร 2 ใบ เชื่อว่าพรรคไม่เสียเปรียบ และเรื่องขยายพื้นที่ออกนอกชายแดนใต้

 

ส่วนการหาตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งทั้ง 400 เขต พยายามจะหาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งก่อนส่งผู้สมัครลง 219 เขต ครั้งนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนรับสมัครผู้ที่สนใจ พร้อมกับส่งคนลงไปดูในพื้นที่ต่างๆเพื่อทาบทามมาร่วมอุดมการณ์

 

อย่างไรก็ตาม วันนอร์ ยอมรับว่า ห่วงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ เพราะพรรคมีส.ส.เขตอยู่  ซึ่งหลายพรรคยายามมาแย่งชิงเก้าอี้ในพื้นที่นี้  ดังนั้น จะทำอย่างไรเพื่อป้องกันส.ส.ทั้ง 6 เขตที่มีอยู่ทั้งหมดให้ได้ ซึ่งส.ส.ทำการบ้าน พรรคต้องไม่ให้พลาด ขณะเดียวกันเขตพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 11 เขต เป็น 12 เขต ต้องพยายามให้ได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 คน

 

มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะได้ส.ส.เขตเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน และเมื่อได้ส.ส.เขตเพิ่ม ส.ส.บัญชีรายชื่อก็จะเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งการเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคได้ 480,000 คะแนน ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยแบบบัตร 2 ใบรวมกัน พรรคน่าจะได้คะแนนมากกว่า 1 ล้านคะแนน

 

สรุปง่ายๆ คือ เป้าหมายของพรรคประชาชาติ คว้า ส.ส.เขตเกิน 10 คว้าปาร์ตี้ลิสต์เกินล้าน

 

แน่นอนว่าความสำเร็จของพรรคประชาชาติ ถ้าทำได้ ก็คือการบอนไซ และจำกัดพื้นที่ของประชาธิปัตย์นั่นเอง ฉะนั้นจะเรียกว่า ประชาชาติ คือ ก้างขวางคอประชาธิปัตย์ในภารกิจทวงคืนความยิ่งใหญ่ในภาคใต้ ก็คงไม่ผิด

 

logoline