ทำเอาชาวโซเชียลใน จ.สุรินทร์ วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด หลังจากเมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด หรือ “พิธีเปิดเมือง” ก่อนจะเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ครั้งที่ 61
โดยเริ่มจากไหว้พระพุทธจอมสุรินทร์ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ก่อนไหว้สักการะหลวงพ่อพระชีว์ (หลวงพ่อประจี) และศาลหลักเมือง ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่เข้าร่วมพิธี
แต่ที่เป็นไฮไลท์ คงเป็นพิธีปลุกเสกของบรรดา “หมอผี-ร่างทรง” หรือ “ฤาษีผู้ขมังเวทย์” นำโดย “เณรแอร์” ที่เข้าร่วมพิธี จนสร้างความแปลกใจให้ชาวสุรินทร์อย่างมาก เพราะเกรงว่า การนำบุคคลเหล่านี้ เข้ามาร่วมพิธีเสริมสิริมงคลแก่บ้านเมือง จะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “คราศรี ลอยทอง” โพสต์ข้อความว่า ได้มีการบังอาจกระทำการที่ไม่เหมาะสม กล่าวคือแทนที่จะมีการเตรียมพิธี และข้าวของเครื่องเซ่นไหว้เหมือนทุกปีที่ปฏิบัติติดต่อกันมากว่า 60 ปี แต่ปีนี้ทางจังหวัดได้เชิญเหล่าบรรดานักบวชฤาษี มาร่วมและมีการแสดงพิธีกรรมเซ่นไหว้ในพิธี มีการอวดอ้างไสยเวทย์มนต์ คาถา สรรพคุณทางคุณไสย์ มีการนำ และแนะนำอดีตนักโทษ อย่างอดีตเณรแอร์ ผู้กระทำผิดข้อหาเผาศพทารก ทำคุณไสย์มากระทำพิธี โดยมีพ่อเมืองสุรินทร์อยู่ในพิธีการต่างๆ นี้ด้วย
“การกระทำดังกล่าวนี้ คืออวิชชา ไสยศาสตร์มนต์ดำ เดรัจฉานวิชา ที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อความเชื่อวัฒนธรรมอันดีงามของเมืองสุรินทร์เรา ชาวสุรินทร์ส่วนใหญ่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมดีงามนี้ อันจักเป็นการเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะว่า เมืองสุรินทร์เป็นดินแดนไสยศาสตร์ มนต์ดำ เล่นของ ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียอย่างมากมายแก่ชื่อเสียงความดีงามของบ้านเรา”
จึงขอเรียกร้องให้จังหวัดออกมาชี้แจง ถึงเหตุผลที่สร้างความเสื่อมเสียนี้ และแสดงความรับผิดชอบ จัดพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุรินทร์ และดวงวิญญาณพระยาสุรินทร์พ่อเมืองของเรา หากไม่ทำและชี้แจงไม่เป็นที่กระจ่าง ก็ขอให้ย้ายตนเองออกจากเมืองสุรินทร์ เป็นการด่วนก่อนที่ชาวสุรินทร์จะขับไล่
ขณะที่ชมรมชาวกูยแห่งประเทศไทย และชาวสุรินทร์ ลูกหลานพระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง มีแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางจังหวัดออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และแสดงควาามรับผิดชอบต่อไป