สำนักงานความปลอดภัยด้านคมนาคมขนส่ง (TSA) แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธปืนได้มากกว่า 5,700 กระบอกที่จุดตรวจภายในสนามบินในปี 2564
เดวิด เปโกสเก ผู้บริหาร TSA ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยยึดปืนได้มากที่สุดเกือบ 4,400 กระบอกในปี 2562 และอัตราการพบอาวุธปืนในกระเป๋าเดินทางที่ถือขึ้นเครื่องบินได้ตรงจุดตรวจต่อผู้โดยสาร 1 ล้านคนยังเพิ่มขึ้นสองเท่าของปี 2562 ด้วย และเชื่อว่า สถิตินี้สะท้อนว่าชาวอเมริกันพกปืนเพิ่มขึ้น
ปกติผู้โดยสารเครื่องบินสามารถนำอาวุธปืนที่ไม่บรรจุกระสุนขึ้นเครื่องบินได้แต่ต้องเก็บในกระเป๋าสัมภาระที่ต้องผ่านการตรวจสอบเท่านั้น
ผู้บริหาร TSA เตือนด้วยว่า การฝ่าฝืนเรื่องนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินเป็นความผิดที่มีโทษปรับหลายพันดอลลาร์หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น ซึ่งจะพิจารณาตามกฎหมายของท้องถิ่นหรือของรัฐ
เมื่อเดือนพ.ย.เพิ่งเกิดเหตุปืนลั่นที่จุดตรวจภายในสนามบินแอตแลนตาสร้างความโกลาหลทำให้ผู้โดยสารแตกตื่นวิ่งหนีกระเจิง โดยเหตุการณ์เริ่มจากเครื่องเอ็กซเรย์ตรวจพบอาวุธปืนในกระเป๋า เจ้าหน้าที่ TSA จึงตรวจค้นกระเป๋าและเตือนให้ผู้โดยสารอย่าแตะปืน แต่เขารีบฉวยปืนจึงเกิดการลั่นไกขึ้น แล้วหลบหนีไปทำให้ตำรวจต้องออกหมายจับ
ขณะเดียวกันผู้บริหาร TSA ยอมรับว่า ยังไม่รู้ว่า มาตรการบังคับสวมหน้ากากบนเครื่องบิน ภายในสนามบิน และระบบขนส่งอื่นๆจะสิ้นสุดเมื่อใด หลังจากเพิ่งขยายเวลาบังคับใช้จนถึงวันที่ 18 มี.ค. ปีหน้า นับจากเริ่มใช้มาตรการนี้ตั้งแต่เดือน ก.พ.