นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ แถลงต่อชาติเมื่อคืนวันที่ 12 ธันวาคม เรียกร้องคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 แล้วอย่างน้อย 3 เดือน ไปเข้ารับการฉีดกระตุ้นตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมเป็นต้นไป โดยเรียกว่า "Omicron Emergency Boost" หลังศาสตราจารย์คริส วิตตี้ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านการการแพทย์ (CMO) ของรัฐบาล แนะนำให้ยกระดับคำเตือนภัยโควิด-19 จากระดับ 3 เป็น 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ
จอห์นสันได้สั่งให้กองทัพเข้ารับการอบรมด้านการฉีดวัคซีนเป็นพิเศษ และให้พยาบาลวางมือจากหน้าที่ปกติมาช่วย เนื่องจากระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้วันละ 1.1 ล้านคน ทุกวันจนถึงสิ้นปีโดยไม่เว้นแม้กระทั่งเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนกระตุ้นโดส 3 มากกว่า 23 ล้านคนแล้ว
ทีมวางแผน 42 ทีมของกองทัพ และเจ้าหน้าที่พิเศษของ NHS จะเข้าประจำการในทั่วทุกภูมิภาคของสหราชอาณาจักร และยังเพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีนกับหน่วยเคลื่อนที่ ขยายเวลาฉีดวัคซีนตามคลีนิกต่าง ๆ เพื่อรองรับการฉีดวัคซีน 7 วันต่อสัปดาห์ โดยมีอาสาสมัครที่ผ่านการฝึกอบรมการฉีดวัคซีนมาเป็นพิเศษอีกหลายพันคนเข้ามาช่วยรับมือ "คลื่นยักษ์โอมิครอน" และป้องกันไม่ให้ต้องใช้ "Plan D" ในเดือนมกราคม ที่เป็นไปได้ว่าจะต้องกลับมาล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ถ้าโอมิครอนระบาดแบบไม่สามารถควบคุมได้