ในการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีด้านการพัฒนาของกลุ่มประเทศจี7 ที่เมืองลิเวอร์พูลของอังกฤษในวันที่สองในวันนี้ มีรัฐมนตรีจากมาเลเซีย ประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ได้รับเชิญเข้าร่วมด้วย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของกลุ่มจี7 ที่จะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการทหารกับภูมิภาคอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่กลุ่มชาติร่ำรวยทั้ง 7 ซึ่งประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ มีความขัดแย้งตึงเครียดกับจีน รัสเซีย และอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ในการประชุมสุดยอดจี7 เมื่อเดือน พ.ค.อังกฤษก็เชิญตัวแทนจากอินเดีย ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย แสดงให้เห็นว่าอังพยายามสร้างบทบทบาททางการทูตในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
สำหรับเนื้อหาในการประชุมวันนี้ คาดว่า จะหารือถึง การพัฒนาเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ความเสมอภาคในการเข้าถึงวัคซีนทั่วโลก และสิทธิมนุษยชน และหลังจากอังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป ก็พยายามขยายความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น และเพิ่มการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้คาดว่า ผู้แทนอังกฤษจะหารือถึงโอกาสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมื่อเดือนที่แล้วสำนักงานการลงทุนในต่างประเทศของอังกฤษเพิ่งปรับโครงสร้างใหม่ และเพิ่มงบประมาณการลงทุนในต่างประเทศเป็นเกือบ 10,500 ล้านดอลลาร์จากเดิม 2,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2563 และคาดว่า เงินลงทุนส่วนใหญ่จะกระจายไปยังประเทศในอาเซียน