โครงการรับจำนำข้าว ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ แม้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยายามบอกแก่สาธารณชน ว่า เป็นโครงการที่มีประโยชน์ แต่ปัญหาการขาดทุน และการระบายข้าวที่ไม่โปร่งใส ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลฎีกานักการเมือง ตัดสินจำคุก และหลบหนีไปต่างประเทศ
ส่วนรัฐมนตรีในรัฐบาล อย่าง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และ นายภูมิ สารผล อดีตรมช.พาณิชย์ รวมถึงข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ที่ดำเนินโครงการจำนำข้าว ถูกศาลพิพากษาจำคุก
นอกจากนี้ ยังมีคดีระบายข้าวจีทูจี คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพิ่งมีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายบุญทรง และพวก รวมกันทุจริตระบายข้าว เมื่อเร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สืบสวนความจริง
- "บุญทรง"เจออีก 2 เด้ง ”ทุจริตระบายข้าว มันเส้น จีทูจี”
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เผยว่า แม้โครงการจำนำข้าว จะสิ้นสุดลงหลายปีแล้ว แต่ภาระงบประมาณยังคงมีต่อ ซึ่งทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รายงานว่า ในปีงบประมาณ 2565 สำนักงบประมาณ ได้ตั้งงบชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส. จำนวน 6.9 หมื่นล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนหน้า
ปัจจุบันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีภาระหนี้จากโครงการรับจำนำข้าว ที่ต้องชำระคืนให้กับ ธ.ก.ส. จำนวน 1 แสนล้านบาท คาดว่าสำนักงบประมาณ จะมีการตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายหนี้ ปีละ 10-20% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีจึงจะชำระหนี้หมด
ขณะที่ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เตรียมปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ซึ่งยังมีข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และข้าวเปลือกนาปรัง ของรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ที่รอการระบายอีกประมาณ 220,000 ตัน
ทั้งหมดเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ ต้องขายเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมเท่านั้น คนและสัตว์บริโภคไม่ได้
อคส. ตั้งเป้าหมายระบายให้หมดภายในเดือน ก.ย.65 และเมื่อเปิดให้มีการระบายจนหมดแล้ว จะทำให้สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ แล้วถึงจะทราบว่ามีผลขาดทุนเท่าไร
เบื้องต้น ประมาณ 5 แสนล้านบาท จากการทุจริตในโครงการจำนำข้าว ปีการผลิต 2554-57 ซึ่งได้มีการส่งฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้ว รวม 1,143 คดี และผลขาดทุนดังกล่าวยังไม่รวมผลขาดทุนจากการที่ต้องขายข้าวในราคาต่ำในการประมูลข้าวสารในสต๊อกในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวยิ่งเก่า ยิ่งขายได้ราคาต่ำ รวมทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่รัฐต้องจ่าย เช่น ค่าเช่าคลังสินค้าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อก เป็นต้น
สำหรับโครงการประกันรายได้ ที่รัฐบาลจ่ายเฉพาะเงินส่วนต่างระหว่างราคาประกันและราคาตลาด โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยไม่มีภาระเรื่องการเก็บสต๊อกเพราะเกษตรกรเป็นผู้เก็บเพื่อจำหน่ายเอง ขณะนี้อยู่ในช่วงการจ่ายเงินสวนต่างฯ งวดที่3-7 (9-14 ธ.ค.) ส่วนงวด ที่เหลือ คือ 8-33 จะทยอยจ่ายในลำดับต่อไป ซึ่งจะมีพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับประโยชน์โดยตรงทันทีกว่า 4.7 ล้านครัวเรือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-2564ปีของการเช็คบิลคดีมันเส้นจีทูจี-ระบายข้าวจีทูจี
-ป.ป.ช.แจ้งข้อหา"บุญทรง"เครือข่ายทักษิณ 80 ราย ทุจริตมันเส้นจีทูจี