ทุกข์ชาวบ้าน ถูกทำร้ายร่างกาย กลับกลายเป็นผู้ต้องหาร่วม

จังหวัดอุทัยธานี จากกรณีที่เพจดัง "อยากดังเด่วจัดให้" ได้นำข้อมูลมาโพสต์ #ทุกข์ชาวบ้าน ถูกทำร้ายกาย กลับกลายเป็นผู้ต้องหาร่วม แถมมีคำพูดจากบุคคลหนึ่งบอกว่า บอกว่าศาลเขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องขี้หมูลาขี้หมาแห้งหรอก พื้นที่เกิดเหตุ สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยค่ะ แม่โดนผู้ชายเมาทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 คดีไม่คืบ พอไปถามตำรวจกลับบอกว่าให้ไปเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา เป็นผู้ต้องหาร่วมทั้งๆที่คลิปผู้ชายตบแม่ร่วงลงไปก็มี กลับบอกว่าคนโดนทำร้ายร่างกายเป็นผู้ต้องหา ตอนไปโรงพักหนูขอดูชัดเจนมากค่ะ หนูอัดเสียงตำรวจไว้ บอกว่าศาลเขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องขี้หมูลาขี้หมาแห้งหรอก

เมื่อวันนี้ (9 ธ.ค.) ช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับนางรุ่งเรือง ครุธทา อายุ 63 ปี และนางสาวสุภาวดี คำดีวัน อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 197 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี  2 แม่ลูกและเป็นผู้โพสต์เรื่องราวถูกทำร้ายลงสื่อโซเชียล และเพจดัง " อยากดังดังเดี่ยวจัดให้" นำมาโพสต์จนเป็นกระแสดัง จากการสอบถามนางสาวสุภาวดี คำดีวัน อายุ 40 ปี เผยว่า กรณีที่นางรุ่งเรือง ครุฑทา ผู้เป็นแม่ได้ถูกนายสมชาย โพธ์ประดิษฐ์ อายุ 50 ปี ตบที่หน้าบ้านของสมชาย หลังตลาดสดหนองฉางเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา โดยนางรุ่งเรือง นั้นถูกตบที่บริเวณไต้คางด้านซ้ายและที่ท้ายทอยจนเป็นแผลช้ำ

โดยนางสาวสุภาวดี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ได้ไปเยี่ยมลุงและไปกินวันเกิดหลานติดกับบ้านนายสมชาย ผู้ลงมือตบแม่ จากนั้นนายสมชายก็เอาขวดทุบจนแตก และนำไม้มาขวางทาง และบอกว่าไม่ให้นางรุ่งเรืองหรือแม่ผ่านเวลากลับบ้าน แต่นายสมชายนั้นไม่รู้ว่านางรุ่งเรืองกลับมาแล้ว จากนั้นก็ขับรถ จยย.มาดักแล้วถือขวดเบียร์มาขวดหนึ่ง แล้วก็บอกอีกว่าให้สั่งสอนนางรุ่งเรืองเสียบ้างนะ อย่ามายุ่งเรื่องครอบครัว แล้วบอกว่าถ้ามีปืนเขาจะยิง ทีนี้พี่สาวอีกคนหนึ่งที่อยู่ในบ้านก็โทรมาว่านายสมชาย นางรุ่งเรืองก็งง แล้วก็บอกว่าอ้าวแล้วเราไปทำอะไรกับตอนไหน จากนั้นนางรุ่งเรืองก็โทรแจ้งตำรวจ โดยมีตำรวจไปสามคน โดยนางรุ่งเรืองนั้น ก็ขับรถ จยย.นำไปก่อน และตำรวจก็ขับตามไป ก็ไปถึงหน้าบ้านนายสมชาย จากนั้นก็ถามว่า ไปด่าอะไร จากนั้นก็มีการโต้เถียงกันแล้วนายสมชายก็บอกว่า เดี๋ยวจะฆ่าให้ตายเลย จากนั้นนางสาวนางสุภาวดี ก็ไปถึงพอดี ก็จอดรถ พอเขาเห็น ก็ด่าแล้วก็ลงมือตบนางรุ่งเรืองจนร่วงไป จากนั้นนางสาวสุภาวดี ก็ไปกระชากนายสมชายออกจากตัวแม่ หรือนางรุ่งเรือง แล้วบอกว่า ทำอะไรแม่ จากนั้นก็บอกว่าแม่ไม่ต้องเถียงแล้วนะ ไปแจ้งความเลย ก็พาแม่ไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองฉาง โดยมีนายสมชายขับรถตามไป แล้วไปยืนด่า จากนั้นก็ผลักหัวนางสาวสุภาวดีในสถานีตำรวจอีด้วย ตำรวจก็บอกว่า งั้นก็เข้าไปข้างในสถานีตำรวจ ก็ส่งไปตรวจร่างกาย ตรวจเสร็จก็ได้ทำการแจ้งความ แต่ตัวนายสมชาย ยังไม่มา โดยไปอีกวันหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เรียกตัวไปอีกและบอกว่า จะเคลียร์ที่สถานีหรือยอมความ แต่นางสาวสุภาวดีบอกว่า ไม่ยอม โดยบอกว่าแม่หนูโดนตบหนูจะยอมได้อย่างไร

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็บอกว่าถ้าแบบนี้ก็ฟ้องศาล ในวันนี้ช่วงเช้า ก็เลยโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเรื่องถึงไหนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ถ้าจะฟ้องศาลแม่เราก็ต้องผิดด้วยหรือเป็นผู้ต้องหาร่วมด้วย จึงได้ถามตำรวจว่าทำไมต้องเป็นผู้ต้องหาร่วมด้วย ตำรวจก็อธิบายว่าก็เต็มใจที่จะไปตรงที่หน้าบ้านนายสมชาย แต่ไปไม่ได้ไปสองคนกับแม่ แต่พาตำรวจไปด้วยอีก 3 คน แล้วทำไมตำรวจช่วยแม่ไม่ได้เลย ก็ถามตำรวจว่าน้องถ่ายคลิปไว้ใช่หรือเปล่า ตำรวจก็บอกว่าถ่าย นายสมชายก็อาละวาดอีกว่า เดี๋ยวจะฆ่าให้หมดบ้านเลย และในตอนนี้ อยากให้ทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือมาก และขอความเป็นธรรมให้แม่ด้วย ซึ่งแม่เป็นผู้หญิงและโดนผู้ชายตบ และตำรวจก็บอกว่า เหมือนกัน โทษเท่ากัน ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายทะเลาะกัน ก็โทษเท่ากันเลย

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.หนองฉาง และได้พบกับ พ.ต.ท.สังวาลย์ งอกศิล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และได้เผยความคืบหน้าของคดี ว่าเบื้องต้น อยากให้ทำการไกลเกลี่ยกันในชั้นสอบสวน โดยบอกว่าเป็นการทะเลาะวิวาท แต่หากว่าผู้ถูกทำร้ายยืนยันว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดถึงศาล วันนี้เพิ่งจะได้ใบผลตรวจร่างกายจากแพทย์ ก็ยินดีที่จะทำสำนวนส่งฟ้องศาลให้ และให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตามพยานหลักฐาน แต่อย่างไรก็อยากจะเรียกมาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง ส่วนทางด้านนายสมชาย โพธ์ประดิษฐ์ คนที่เป็นผู้ทำร้ายร่างกาย ผู้สื่อข่าวพยามจะติดต่อเข้าพบแต่ไม่อยู่บ้าน แต่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ โดยยอมรับถึงความผิดในครั้งนี้ว่าทำจริง จะแจ้งความ หรือฟ้องร้องตนเองก็ยอมรับผิดทุกอย่าง และไม่คิดจะแจ้งความกลับในเรื่องการหมิ่นประมาทที่มาใช้คำหยาบคลายต่างๆนาๆถึงหน้าบ้านตัวเอง และยังเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ชอบเหน็บแนมอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้มาด่าถึงหน้าบ้าน จึงเกิดบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายจริง                  

ข่าว-ภาพ โดย สามสอ จันทรังษ์