svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม nation online

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
เนชั่นทีวี

การเมือง

ปล่อยแล้ว 37 ชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตั้งเงื่อนไขห้ามชุมนุมอีก

07 ธันวาคม 2564

ตำรวจปล่อยตัวแล้วชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามชุมนุม ขณะที่ชาวบ้านยืนยันจะสู้ต่อเรียกร้องปัญหา

     ความคืบหน้ากรณี ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เข้ากระชับพื้นที่และจับกุม ผู้ชุมนุมชาวจะนะรักษ์ถิ่น 37 คน ที่ปักหลักชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงสัญญา SEA ประเมินผลกระทบระดับยุทธศาสตร์ ภาคประชาชน จากรัฐบาลในโครงการนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ จ.สงขลา เมื่อช่วงดึกวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดถูกนำไปควบคุมตัวไว้ที่สโมสรตำรวจ  

 

ปล่อยแล้ว 37 ชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตั้งเงื่อนไขห้ามชุมนุมอีก

 

     ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (7 ธ.ค.) ชาวบ้านเครือข่าย “จะนะรักษ์ถิ่น” 37 ราย ที่ถูกคุมได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ และ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ และประชาชนจากเครือข่ายสลัมสี่ภาคที่เดินทางมาสังเกตการณ์ให้กำลังใจ 

 

ปล่อยแล้ว 37 ชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตั้งเงื่อนไขห้ามชุมนุมอีก
 

     นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวว่าที่เดินทางเข้ามาปักหลักชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามบันทึกข้อตกลงผลการเจรจาการแก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นกับผู้แทนรัฐบาล ที่มีการทำข้อตกลงไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 63 ซึ่งข้อตกลงเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้พื้นที่เกือบสามตำบลในอำเภอจะนะ แต่รัฐกลับใช้กลไกลการดำเนินงานผ่าน ศ.อบต.เสมือนเป็นการข่มขู่คุกคามชาวบ้าน

 

     “การที่ชาวบ้านออกมาในครั้งนี้ก็ไม่มีใครอยากมีปัญหากับอำนาจรัฐ แต่การออกมาเพื่อทวงถามคำสัญญาที่รัฐได้ให้ไว้เมื่อหนึ่งปีที่แล้วซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการเรียกร้องที่ชอบธรรม แม้ว่ารัฐจะมีเงื่อนไขห้ามกลับไปชุมนุมอีกครั้งแต่ชาวบ้านจะนะยืนยันว่าจะยังไม่กลับบ้าน หลังจากนี้จะขอใช้เวลาหารือกันและจะประกาศท่าทีอีกครั้ง วันนี้ข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุและจะอยู่จนกว่าข้อเรียกร้องที่ยื่นไปจะได้รับการยอมรับ” นายสมบูรณ์ระบุ

 

ปล่อยแล้ว 37 ชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตั้งเงื่อนไขห้ามชุมนุมอีก

     ด้านนางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ กล่าวว่า จากเดิมที่มีการแจ้งข้อหากับผู้ชุมนุมเพียงหนึ่งข้อหาคือผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ต่อมากลับมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคือฝ่าฝืนผิด พ.ร.บ.จราจร และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ลักษณะการเพิ่มข้อหาเช่นนี้มองว่าไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน ตรงนี้ชาวบ้านได้ให้การปฏิเสธทั้งหมดและขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 20 วัน ครบตามกำหนดในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ แต่พนักงานสอบสวนกลับนัดให้มาพบภายในวันที่ 20 ธ.ค.โดยแจ้งว่ากลัวจะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการและจะส่งฟ้องไม่ทัน หากเป็นเช่นนั้นจริงมองว่าคดีนี้เป็นการล็อคไว้แล้วว่าจะมีการสั่งฟ้อง

 

     ทีมทนายได้เตรียมตัวเต็มที่ในการต่อสู้คดีและจะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่ชั้นตำรวจเนื่องจากไม่ได้มีการดำเนินการเพียงแค่สน.ดุสิตเท่านั้น แต่ยังมีคณะกรรมการตำรวจที่จะตรวจสอบได้ แต่หากต้องส่งฟ้องไปยังชั้นอัยการก็จะยื่นเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ส่วนหากรัฐบาลจะมีการเปิดโต๊ะเจรจาชาวบ้านก็พร้อมที่จะเจรจา แต่การเจรจาในรูปแบบดำเนินคดีกับชาวบ้านใช้ข้ออ้างเช่นนี้มาเจรจาต่อรองชาวบ้านก็ไม่ยอมรับเพราะมีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว
 

ปล่อยแล้ว 37 ชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตั้งเงื่อนไขห้ามชุมนุมอีก