ศาลให้ประกันสาวมือตัดต่อภาพพระแก้วมรกต หลังถูก ปอท. ตามรวบถึงหน้าบ้าน

     ความคืบหน้าคดีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพตัดต่อเครื่องทรงพระแก้วมรกต ล่าสุดวันนี้ (3 ธ.ค.) ที่ บก.ปอท. ร.ต.อ.พิเชษศักดิ์ ปิยะรัตนสถิตย์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เบิกตัว น.ส.วารุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กที่โพสต์ภาพตัดต่อเครื่องทรงพระแก้วมรกต เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ในลักษณะมิบังควร มายัง บก.ปอท. เพื่อขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ผ่านทางระบบ video conference หลังจากฝ่ายสืบสวน กก.3 บก.ปอท. นำหมายจับศาลอาญา ที่ 2047/2564 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ไปจับกุมตัวมาจาก จ.พิษณุโลก วานนี้ (2 ธ.ค.)

 

     เบื้องต้น ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหา ม.112 ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี" และมาตรา 206 “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(3) “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสยีหาย ต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนก แก่ประชาชน”

 

 

     ภายหลังศาลได้ให้ น.ส.วารุณี ประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท โดย น.ส.วารุณี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยต้องมารายงานตัวต่อศาล วันที่ 20 ม.ค. 65 ทั้งนี้ก่อนถูกจับกุม ตนไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน กระทั่งวานนี้ ตำรวจนำกำลังไปจับตนที่หน้าบ้าน ก่อนแสดงหมายจับและหมายค้น พร้อมยึดเอาโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบเป็นของกลางในคดี 

 

     ทั้งนี้ ตนสงสัยว่า ทำไมไม่มีหมายเรียกก่อนถึงออกหมายจับเลย ตำรวจที่ไปจับกุมแจ้งว่าไม่ทราบ เขามาจับตามหน้าที่ ก่อนเอาตัวไปลงประจำวันที่ สภ.เมือง พิษณุโลก แล้วคุมตัวมา บก.ปอท. เมื่อบ่ายวานนี้ สอบปากคำอยู่ประมาณ 2 ช.ม.เสร็จเอาตัวไปฝากขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับความสะดวกตามอัตภาพ ได้อนุญาตให้โทรติดต่อญาติและทนายได้ 

 

     อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะบอกสังคมว่า กฎหมายมาตรานี้เป็นกฎหมายที่กว้างมาก ยังมีหลายคนที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายบุคคลอื่นอีก ฉะนั้นถ้าใครจะทำอะไรก็ขอให้มีสตินึกคิดเยอะๆ ขอให้เครสของตนเป็นกรณีตัวอย่างว่า การที่เราจะโพสต์อะไรลงไปในเฟซบุ๊ก บางทีเราอาจจะไม่ทันได้คิดว่า มันจะเกิดเรื่องเป็นเรื่องที่บานปลายได้ขนาดนี้แต่เป็นเพราะกฎหมายตัวนี้ถึงทำให้เกิดเรื่องขนาดนี้ได้ ตามมุมมองของตนที่โดนดำเนินคดีนี้ไม่เข้าข่ายที่จะถูกดำเนินคดีด้วยซ้ำไป แต่ก็ยังสามารถเอามาแจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับตนได้เลย ฉะนั้นอยากจะฝากให้คนที่คิดจะโพสต์อะไรก็คิดให้ดีๆ ตนก็เป็นห่วงทุกๆ คน