ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ ในวันที่ 8 ธ.ค. 2564 คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือกกร. จะมีการประชุม เบื้องต้นจะหารือประเด็นการแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ หรือ โอมิครอน ว่าส่งผลกระทบหรือไม่อย่างไร รวมทั้งมาตรการที่รัฐควรทำเพื่อสกัดการแพร่ระบาดและไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโอมิครอน ยังต้องรอความเห็นของทางการแพทย์ว่าวัคซีนที่ปัจจุบันใช้กันอยู่นั้นสามารถรับมือได้มากขนาดไหน ซึ่งขอให้ทุกภาคส่วนอย่าตื่นตระหนกและการ์ดอย่าตก ตอนนี้ความสามารถทางสาธารณสุขของประเทศไทยนั้น เชื่อว่าสามารถรับมือได้ อีกทั้งทางรัฐบาลก็ได้มีประกาศเพิ่มเติม มีมาตรการสกัดกั้นคนที่เดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดแล้วด้วย
“การระบาดของโควิด 19 นี้ น่าจะมีต่อไป โดยประเทศไทยนั้นเราผ่านการระบาดระลอกใหญ่มา 3-4 รอบแล้ว ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ ประชาชน รู้ถึงความเสียหายหากเกิดการล็อกดาวน์ขึ้นมา ทั้งความเสียหายทางสาธารณสุข และ ทางเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงอยากให้ ทุกภาคส่วนช่วยให้ความร่วมมือปฎิบัติตามมาตรการต่างๆที่ออกมาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปีหน้าไม่เกิดการล็อกดาวน์”
สำหรับเงินสู้โควิดที่รัฐบาลมีเหลือ 3.88 แสนล้านบาทนั้น รัฐบาลได้เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะไว้แล้วจะทำให้รัฐบาลกู้เพิ่มได้ ซึ่งต้องมาดูว่าสถานการณ์การระบาดครั้งใหม่นี้จะเป็นอย่างไร จึงมาพิจารณาในประเด็นนี้อีกครั้ง แต่วงเงินที่เหลืออยู่ควรจะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เยียวยาผู้ประกอบการและป้องกันการระบาด