22 พฤศจิกายน 2564 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่ากรมศุลกากรร่วมกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สกัดกั้นการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักร โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าที่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัดหรือที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อป้องกันมิให้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่ายภายในราชอาณาจักร ทั้งนี้ ได้มุ่งเน้นการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าประเภท อาหาร ยารักษาโรค เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและของเล่นเด็ก เพราะหากมีการลักลอบนำสินค้าดังกล่าวเข้ามาในประเทศและจำหน่าย อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน กรมศุลกากรจึงร่วมกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สืบสวนหาข่าว เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางนา กรุงเทพมหานคร พบสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า และยารักษาโรค เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง เลื่อยโซ่ และอื่น ๆ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงขณะตรวจค้น มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงาน ได้เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พบสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น และอื่น ๆ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงขณะตรวจค้น มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 18 ล้านบาท
ซึ่งทั้งสองกรณีเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 และพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562
หากมีการพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือสงสัยว่าสินค้าดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน ท่านสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร หมายเลขโทรศัพท์02-667-6741